นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบของ “OnDemand” พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด และบริษัทในเครือ บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“เรา”) เพื่อให้บริการคอร์สเรียนออนไลน์ทั้งหน้าสาขา ระบบการเรียนแบบออนไลน์ เว็ปไซต์ หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่เราให้บริการ (“บริการ”) สำหรับผู้เรียนที่ต้องการสมัครเรียน หรือใช้บริการของเรา (“น้อง”) โปรดอ่านข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการนี้อย่างละเอียดก่อนใช้บริการ นอกจากนี้ ข้อตกลงฉบับนี้อาจมีการเชื่อมโยงไปยัง ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า ผู้รับบริการ ซึ่งบริษัทถือเสมือนว่า ประกาศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขและข้อตกลงโครงการฉบับนี้ โดยเมื่อน้องล็อกอินเข้าสู่ระบบ ถือว่าน้องรับทราบและตกลงยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการแล้ว
น้องจะสมัครสมาชิกได้อย่างไร
- น้องจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยกรอกข้อมูลบนแบบฟอร์มที่เรากำหนด เพื่อให้เราดำเนินการสร้างบัญชี บันทึกข้อมูลของผู้สมัครสมาชิก และส่ง Username Password ทางอีเมล โดยเราสนับสนุนให้น้องใช้รหัสผ่านที่ไม่ซ้ำและไม่เดาง่ายจนเกินไปเพื่อให้แตกต่างจากรหัสผ่านที่น้องเคยใช้ในบริการอื่น ๆ
- น้องจะรักษาอีเมล Username Password และ/หรือรหัสผ่านของการลงทะเบียนใช้บริการไว้เป็นความลับ และจะไม่โอนสิทธิ์การใช้บริการให้แก่บุคคลอื่นใด หากน้องฝ่าฝืนเงื่อนไขให้ถือว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำโดยตัวของน้องเอง และมีผลผูกพันในทางกฎหมาย แม้ว่าน้องจะไม่ได้เป็นผู้ทำกิจกรรมหรือใช้งานดังกล่าวก็ตาม ซึ่งเราจะไม่รับผิดต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
- น้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาข้อมูลบัญชีของน้องให้คงความถูกต้อง สมบูรณ์ หากน้องพบว่ามีการใช้ข้อมูลสมาชิกของน้องโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือสงสัยว่ามีผู้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของน้องโดยไม่ได้รับอนุญาต น้องควรเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
- น้องจำเป็นต้องเข้าถึงบัญชีของน้องผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือการติดตั้งซอฟต์แวร์ของเราบนเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือของน้อง ค่าใช้จ่ายในการใช้อุปกรณ์เหล่านั้น และค่าบริการในการเชื่อมต่อต่าง ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของน้องเอง เราไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตและบริการเกี่ยวกับโทรคมนาคมต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเข้าใช้ระบบของเราแต่อย่างใด
- น้องจะต้องให้ข้อมูลที่ ถูกต้อง และเป็นความจริง หากมีข้อมูลใดที่ไม่ถูกต้องน้องสามารถแจ้งเราทราบทันที ผ่านช่องทางที่เราให้บริการ เพื่อให้เราดำเนินการปรับปรุง แก้ไขข้อมูลของน้องให้เป็นถูกต้อง โดยเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ เราอาจร้องขอเอกสารเพิ่มเติม ในการยืนยันข้อมูลต่าง ๆ
- เพื่อช่วยให้น้องใช้ข้อมูล Username Password ในการการยืนยันตัวตนและการเข้าสู่ระบบเดียวกันเพียงครั้งเดียว (Single Sign-On) ซึ่งใช้ข้อมูลที่น้องให้ไว้กับเราในการลงทะเบียนสมัครเรียนกับ บริษัทในเครือเลิร์น คอร์ปอเรชัน ที่เข้าร่วมทั้งหมด ผ่านแอปพลิเคชัน Learn anywhere โดยน้องสามารถเลือกใช้บัญชีที่น้องเป็นสมาชิก เพื่อสร้างและจัดการบัญชี ซึ่งรวมถึงรายละเอียดส่วนบุคคลผ่านเว็บไซต์ ช่องทาง และแอปพลิเคชัน ที่เราเข้าร่วมได้
- น้องตกลงว่าธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์/อินเทอร์เน็ต (Electronic/internet transactions) ที่ได้มีการประมวลผลและดำเนินการจนเสร็จสิ้นแล้วโดยผ่านทางเว็บไซต์ หรือโปรแกรม หรือ แอพพลิเคชันที่เราจัดทำขึ้นมีผลบังคับใช้ได้อย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย และผูกพันตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
เด็กสามารถสมัครสมาชิกกับเราได้หรือไม่
- บริการของเรา เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการด้านการศึกษา เราจึงมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน และเรามั่นใจว่า บริการที่เราพัฒนาขึ้นมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในการเรียน การสอบ การพัฒนาความรู้ของน้อง ซึ่งแม้การสมัครเรียนเป็นกิจกรรมที่น้องสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองตามกฎหมายก็ตาม แต่เราแนะนำว่าการที่น้องจะเข้ารับบริการนั้นควรต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำ ควบคุมดูแล และขออนุญาตจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ก่อนสมัครใช้บริการกับเรา
- เราได้พยายามที่จะอำนวยความสะดวกตามความต้องการของน้อง เช่น การให้น้องที่มีอายุตั้งแต่ 10-20 ปี ขึ้นไปสมัครเรียนตามความต้องการของน้องด้วยตนเอง โดยเราจะส่ง SMS เพื่อแจ้งผู้ปกครองของน้องให้รับทราบผลการลงทะเบียน ดังนั้น หากผู้ปกครองได้รับข้อมูลที่เราส่งให้ เราขอให้คำแนะนำว่า ผู้ปกครองควรดำเนินการตรวจสอบ และสอดส่องว่าบุตรหลานของท่านสมัครเรียนกับเราด้วยความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่รับผิดชอบของตนเองเป็นอย่างดี ดังที่ได้ระบุไว้ในเงื่อนไขการบริการและประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า ผู้ใช้บริการ อนึ่ง หากผู้ปกครองได้รับข้อความ (SMS) แจ้งผลการลงทะเบียนแล้ว มีความประสงค์จะคัดค้านการลงทะเบียนของน้อง ผู้ปกครองสามารถแจ้งให้เราทราบ ก่อนเวลาที่น้องจะยืนยันตัวตนเพื่อเริ่มเรียนตามบริการที่น้องลงทะเบียนไว้ และเมื่อเราพิจารณาแล้วอนุมัติตามคำคัดค้านของผู้ปกครอง เราจะดำเนินการคืนเงินตามเงื่อนไขที่ระบุในนโยบายคืนเงิน และเราจะลบบัญชีของน้องทันที
- ในกรณีน้องมีอายุ ตั้งแต่ 10-20 ปี น้องตกลงและรับรองว่า ก่อนการสมัครลงทะเบียน น้องได้แจ้งผู้ปกครองก่อนที่จะชำระเงินค่าค่าบริการแล้ว โดยน้องสามารถทำการลงทะเบียนด้วยตนเอง และกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของน้อง โดยหากน้องเจตนากรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการลงทะเบียนไม่ถูกต้องในสาระสำคัญที่อาจทำให้เรามีความเสี่ยงทางกฎหมาย ทางธุรกิจ หรือได้รับความเสียหาย เช่น อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่เรากำหนด เรามีสิทธิ์ยกเลิกการลงทะเบียนและระงับสิทธิ์ในการใช้บริการทั้งหมด และอาจดำเนินการทางกฎหมายในกรณีที่เรามีสิทธิ์เช่นนั้น
- ในกรณีที่น้องมีอายุต่ำกว่า 10 ปี เรามีสิทธิ์ขอให้ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจเป็นผู้กระทำแทนผู้เยาว์แสดงความยินยอม เพื่อใช้ในการลงทะเบียนหรือเพื่อการสมัครสมาชิก ดังนั้น ในบางกรณีเราอาจร้องขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากน้องหรือผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำแทนผู้เยาว์ปฏิเสธในการให้ความยินยอมในเอกสารนั้น เราจำเป็นต้องทำการปฏิเสธการรับลงทะเบียนหรือยกเลิกการเป็นสมาชิกนั้น
น้องสามารถแบ่งปันบัญชีของน้องให้คนอื่นได้หรือไม่
บัญชีของเราไม่ควรถูกแบ่งปันให้กับใคร หากน้องแบ่งปันข้อมูลสมาชิกของน้องให้ผู้อื่น บุคคลนั้นอาจจะควบคุมบัญชีของน้องได้ และเราจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง และในทางกลับกัน น้องไม่สามารถใช้อีเมลของผู้อื่นในการเข้าไปใช้บริการสมัครเรียนกับเราได้ เนื่องจากข้อมูลของน้อง ซึ่งรวมถึง ข้อมูลสมาชิก และข้อมูลคอร์สเรียนที่น้องได้สมัครเรียน จะถูกบันทึกกับบัญชีผู้ใช้ หากมีการเปลี่ยนเปลี่ยนบัญชีผู้ใช้ อาจมีผลกระทบกับการจัดเก็บข้อมูลน้อง การประเมินผลการเรียน การออกใบรับรอง ทั้งนี้ หากน้องจำเป็นต้องโอนคอร์สเรียนที่ได้ทำการสมัครเรียนไปยังอีเมลบัญชีอื่น น้องต้องทำการยื่นคำร้องมาที่เราโดยการพิจารณาของทีมงานถือเป็นที่สิ้นสุด
เรามีเงื่อนไขการให้บริการอย่างไร
การใช้บริการจะต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ รวมถึงวิธีการ และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราได้กำหนดไว้ในเว็ปไซต์ และน้องจะสามารถเริ่มใช้บริการได้ก็ต่อเมื่อ น้องได้ลงทะเบียน ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการแล้ว
- น้องสามารถใช้บริการของเราได้เมื่อน้องแสดงหลักฐานและยืนยันตัวตนตามที่เรากำหนด โดยหากเราตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้อง เราจะอนุมัติให้ใช้บริการซึ่งน้องจะใช้บริการของเราเพื่อการเรียนรู้เฉพาะตนเองเท่านั้น โดยน้องไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข โอน ให้เช่า อนุญาตให้ใช้สิทธิ์ ขาย รวมถึงติดต่อ “ผู้สอน” เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเราเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
- น้องสามารถขอรับใบรับรองการฝึกอบรมออนไลน์ (Certification) ได้ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่แต่ละคอร์สกำหนด ทั้งนี้ เราขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณา และกำหนดเงื่อนไข การออกใบรับรองและการสอบวัดผลได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้น้องทราบล่วงหน้า
- เราไม่รับรองผลลัพธ์ หรือผลสำเร็จใด และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียและ/หรือ ความเสียหายใด ๆ (ไม่ว่าทางธุรกิจ หรืออย่างอื่นใด) ที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งหวัง ที่จะได้รับจากการใช้บริการ ทั้งนี้ คำแนะนำใด ๆ ไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือเป็นลายลักษณ์อักษรที่ได้รับจากเรา หรือได้รับผ่านการใช้บริการนั้น ไม่ถือว่าเป็นการรับรอง หรือรับประกันการใช้บริการจากเราแต่อย่างใด เว้นแต่จะได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการนี้
- การอ้างอิงข้อความ และเอกสารใด ๆ ที่ได้กระทำการผ่านการใช้บริการ ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของน้องเอง ทั้งนี้ เราไม่ถือเป็นตัวแทนของน้อง รวมทั้งไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือของข้อความ เอกสาร ความคิดเห็น หรือการสื่อสารใด ๆ ที่กระทำการผ่านบริการทั้งสิ้น
- เรามีการพัฒนา การให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริการอาจเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ส่งผลให้เรามีความจำเป็นต้องลบ ปฏิเสธ จำกัดการให้บริการโดยเราจะแจ้งให้น้องทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ในบางกรณีเราอาจจะรวบรวมความคิดเห็น หรือคำแนะนำของน้องได้ตามที่เราเห็นสมควร
- เราขอสงวนสิทธิ์ระงับการให้บริการหากเราตรวจพบว่า การใช้บริการมีวัตถุประสงค์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเอื้อให้มีการดำเนินการอันมิชอบด้วยกฎหมายหรือซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ของผู้อื่น หรือกรณีที่น้องได้สร้างความเสียหายเดือดร้อนแก่บุคคลอื่น หรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเน็ตเวิร์ค
- เราขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
- เราจะไม่รับผิดจากการใช้บริการ ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใด ๆ อันเนื่องมาจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใด เช่นการเกิดอันตรายใด ๆ กับระบบคอมพิวเตอร์ของน้อง หรือการสูญหายของข้อมูล รวมถึงการไม่สามารถเข้าถึง หรือใช้บริการ อันเนื่องจากการกระทำของบุคคลที่สาม
- เรามีอำนาจในการตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ในการใช้บริการของน้อง โดยการตัดสินของเราถือเป็นที่สุด และในกรณีที่พบว่ามีการฉ้อฉล ปลอมแปลง หรือการกระทำทุจริตใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์จากบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพียงบางส่วน หรือทั้งหมด หรือการที่น้องยินยอมให้ผู้อื่นกระทำการข้างต้น เรามีสิทธิ์ปฏิเสธหรือเพิกถอนสิทธิ์ดังกล่าวไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยเราไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น
- เราขอสงวนสิทธิ์ในการระงับ หรือยุติบัญชีของน้อง รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามที่เราเห็นว่ามีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดอันเนื่องมาจากการกระทำดังกล่าวทั้งสิ้น
– การเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือดำเนินการใดที่ผิดเงื่อนไขเรื่องลิขสิทธิ์ตามที่ระบุในข้อตกลงฉบับนี้
– การใช้งานที่ละเมิดสิทธิ์ ความประมาทเลินเล่อของน้อง ที่ทำให้เราได้รับความเสียหาย
– การเผยแพร่ไวรัส, ส่งสแปม, ดักจับข้อมูลซึ่งปรากฏเป็นข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ การเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเรา
– การพยายามเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ และ/หรือระบบคอมพิวเตอร์ของเราหรือบุคคลอื่น หรือทำการเขียนสคริปต์สร้างข้อความในลักษณะที่จะแทรกแซง หรือสร้างความเสียหายแก่สมาชิกรายอื่น
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของน้อง
เรามีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่น้องสมัครลงทะเบียนเรียนกับเรา เนื่องจาก เราต้องใช้ข้อมูลเพื่อประกอบการทำสัญญา การให้บริการแก่น้อง และต้องส่งข้อมูลให้หน่วยงานของรัฐเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หากน้องไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่เรา อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่ของเราตามกฎหมาย หรืออาจทำให้เราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้อย่างถูกต้อง และ/หรือ อาจทำให้มีข้อขัดข้อง ไม่สมบูรณ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อตกลงเงื่อนไขในสัญญาระหว่างเรากับน้องได้ หรือในบางกรณีเราอาจไม่สามารถอนุญาตให้น้องลงทะเบียนเรียนได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวเราอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการลงทะเบียนเรียน หรือยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับน้องไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (แล้วแต่กรณี)
อย่างไรก็ตาม น้องมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอม โดยเราจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอม มาเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครเรียน ซึ่งน้องสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เรากำหนด หรือที่ได้รับความยินยอมจากน้องเท่านั้น โดยในกรณีที่เราจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของน้องในลักษณะ และ/หรือ วัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับที่กำหนดใน ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า ผู้รับบริการ เราจะจัดให้มีประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และประกาศให้น้องทราบทางเว็ปไซต์หรือมีหนังสือไปยังน้องทางอีเมลเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว
ข้อควรปฏิบัติในการใช้บริการมิให้ละเมิดลิขสิทธิ์
- เนื้อหาในคอร์สเรียน ข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ เครื่องหมายการค้า และสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาที่แสดงในบริการของเรา (“ทรัพย์สินทางปัญญา”) เป็นทรัพย์สินและเป็นงานอันได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และอาจมีบางส่วนเป็นทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย โดยการให้บริการนี้ ไม่มีส่วนใดเป็นการโอนสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของเรา หรืออนุญาตให้ทำสำเนา ลอกเลียนแบบ อ้างสิทธิ์ จากทรัพย์สินทางปัญญาของเรา เพื่อวัตถุประสงค์อื่นในเชิงพาณิชย์ หรือวัตถุประสงค์อื่นที่จะทำให้เราได้รับความเสียหายในเชิงธุรกิจ
- น้องตกลงที่จะปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ โดยการไม่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ลอกเลียน ทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข เรียบเรียง ขาย มีไว้เพื่อขาย เช่า มีไว้เพื่อเช่า เสนอขาย เสนอเช่า จัดพิมพ์เนื้อหา reverse engineer รวมถึงกระทำการอื่นใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ ในลักษณะที่เป็นการแสวงหาประโยชน์ ทางการค้า หรือระโยชน์โดยมิชอบ ไม่ว่าโดยประการใด ๆ จากทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวข้างต้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเรา และจากเจ้าของลิขสิทธิ์
- น้องตกลงที่จะไม่ใช้อุปกรณ์อัตโนมัติ เครื่องมือ ซอฟท์แวร์ ปล่อย virus worm spyware computer code file หรือ program ใด ๆ ที่จงใจ หรืออาจจะส่งผลเสีย หรือเข้าไปควบคุม ระบบของเรา
- น้องตกลงไม่ทำ Commercial Mass Emailing หรือ “Spamming” การส่งโฆษณาไปยังอีเมลผู้อื่น หรือส่งไปยัง Newsgroups User การส่งข้อความลูกโซ่เพื่อจะทำให้เกิดการตอบกลับจำนวนมาก และการส่งข้อความซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไปยังผู้อื่น รวมถึงการกระทำใด ๆ ที่มีลักษณะเป็นการสร้างภาระให้กับเครื่องเซิฟเวอร์สำหรับให้บริการของเรา
สิทธิพิเศษ My OnDemand Reward คืออะไร
- My OnDemand Reward คือ สิทธิพิเศษที่มอบให้กับน้อง โดยน้องจะได้รับคะแนนสะสมทุก 1 คะแนน จากการสมัครเรียนทุก 25 บาท (หากผลการคำนวณมีเศษ ระบบจะปัดเศษลงในทุกกรณี) หรือเมื่อน้องมีเงื่อนไขรายการใช้จ่าย อาทิ การสมัครคอร์ส การซื้อตำรา การซื้อชั่วโมง, การซื้ออายุคอร์ส ผ่านทางสาขาและ Shop Online ของโรงเรียนกวดวิชาออนดีมานด์ โดยสงวนสิทธิ์เฉพาะนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนและมีเลขนักเรียนเท่านั้น จะได้รับคะแนนสะสม My OnDemand Reward Point เพื่อสะสมแลกรับของรางวัลและใช้เป็นส่วนลด จากรายการ My OnDemand Reward
- คะแนนสะสม My OnDemand Reward Point มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่ได้รับคะแนนสะสม หรือจนกว่าเราจะยกเลิก
- คะแนนสะสม ไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้ แต่น้องสามารถนำคะแนนสะสมโอนย้ายให้คนในครอบครัวที่มีนามสกุลเดียวกันได้ โดยโอนคะแนนไม่รวมเศษ เช่น คะแนนคงเหลือ 540 คะแนน จะโอนคะแนนได้ 500 คะแนน
- น้องสามารถตรวจสอบคะแนนสะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ OnDemand Application และพนักงานสาขาที่ให้บริการ
- คะแนนสะสมที่แลกแล้วไม่สามารถขอคืนได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โดยเมื่อน้องทำการแลกคะแนน คะแนนจะถูกตัดออกจากคะแนนสะสมของน้อง ตามจำนวนคะแนนที่ทำการแลก และระบบจะทำการประมวลผลหักลบในยอดคงเหลือทันที
- ในการแลกคะแนนสะสม กรุณาแสดงบัตรนักเรียน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นๆ ที่มีรูปสมาชิกเพื่อใช้ยืนยันตัวตน
- เราขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกคะแนนสะสม โปรแกรมการแลกคะแนน หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสิทธิประโยชน์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และในกรณีมีข้อพิพาทคำตัดสินจากเราถือเป็นที่สิ้นสุด
น้องจะชำระเงินได้อย่างไร
- กรณีน้องสมัครที่สาขา : เจ้าหน้าที่สาขาจะออกรหัสชำระเงินและกรอกใน “ใบชำระเงิน” ให้น้องสามารถนำใบชำระเงิน ไปชำระที่เคาน์เตอร์เซเว่น หรือเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือ สแกน QR code ผ่านแอพพลิเคชันธนาคารในมือถือ
- กรณีน้องสมัครที่ shop online : สามารถเลือกชำระเงินผ่านบัตรเครดิต , เคาน์เตอร์เซอร์วิส , QR code หรือ จ่ายเงินปลายทาง ทั้งนี้ สำหรับกรณีการชำระเงินผ่านช่องทางดังกล่าว เราขอสงวนสิทธิ์พิจารณาตรวจสอบและอนุมัติอย่างน้อย 1 (หนึ่ง) วันทำการ นับจากวันที่เราได้รับหลักฐานการชำระเงินที่ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
- น้องสามารถเปลี่ยนวิธีการชำระเงินที่ต้องการได้ต่อเมื่อเปลี่ยนก่อนทำการชำระเงินเท่านั้น เราจะไม่รับผิดชอบและจะไม่รับผิดใด ๆ ต่อความสูญเสียหรือความเสียหายแก่น้องอันเกิดจากการโอนเงินไม่ถูกต้อง
นโยบายคืนเงิน
- เราจะรับผิดชอบคืนเงินค่าบริการตามดุลยพินิจของเรา ในกรณีน้องแจ้งความจำนงเป็นลายลักษณ์อักษร ขอยกเลิกการเรียน/การใช้บริการโดยแจ้งล่วงหน้าก่อนเปิดทำการสอนในวิชาที่สมัครเรียนนั้น หรือก่อนการล็อคอินเข้าเรียนครั้งแรก หรือก่อนการใช้บริการ
- เราขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินค่าบริการ ในกรณีที่เราพิจารณาแล้วเห็นว่าการยกเลิกการใช้บริการเป็นความผิดของน้อง หรือในกรณีที่ผู้ปกครองใช้สิทธิ์โต้แย้งคัดค้านการสมัครลงทะเบียนของน้องภายหลังจากที่น้องได้เริ่มเรียนแล้ว
การต่ออายุการใช้บริการ
ระยะเวลาในการใช้บริการ/การเรียนในแต่ละคอร์ส จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่แต่ละบริการ/คอร์สกำหนดขึ้น ซึ่งเมื่อครบระยะเวลาแล้ว น้องจะไม่สามารถเข้าเรียน/ใช้บริการนั้นได้ โดยเมื่อใกล้ถึงกำหนดหมดอายุการใช้งาน เราอาจจะติดต่อน้องเพื่อแจ้งเตือนให้น้องทำการต่ออายุการใช้บริการได้ก่อนหมดอายุการใช้บริการ อย่างไรก็ตาม น้องมีหน้าที่ติดต่อกับเรา เพื่อแจ้งความประสงค์การต่ออายุการใช้บริการ ดังนั้น หากเราไม่ได้ติดต่อ หรือไม่สามารถติดต่อน้องได้ และน้องไม่สามารถต่ออายุการใช้บริการได้ทันตามกำหนดเวลา เราขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้น หรืออาจจะเกิดขึ้นแก่น้องอันเป็นผลมาจากการหมดอายุการใช้บริการ
การยกเลิกการใช้บริการ
- ระยะเวลาการเป็นสมาชิกจะมีอายุตลอดการเป็นสมาชิก หรือจนกว่าน้องจะยกเลิกการเป็นสมาชิก เว้นแต่กรณีที่บัญชีสมาชิกของน้องไม่เคลื่อนไหวติดต่อกันเกิน 6 (หก) ปี เราขอสงวนสิทธิ์ปิดบัญชีของน้อง โดยไม่ต้องแจ้งให้น้องทราบ
- หากน้องทำผิดเงื่อนไขในการใช้บริการในข้อใดข้อหนึ่ง เราสามารถปิดบัญชีและระงับการใช้บริการของน้องได้ทันที
- เมื่อน้องยกเลิกการเป็นสมาชิก หรือกรณีที่บัญชีของน้องถูกปิดแล้ว เราจะเก็บข้อมูลของน้องไว้ 2 ปี นับถัดจากปีที่น้องยกเลิกการเป็นสมาชิกหรือการปิดบัญชี แล้วแต่กรณี เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบกรณีทุจริต การละเมิดลิขสิทธิ์
- หากน้องเชื่อว่าบัญชีของน้องถูกยุติการใช้งานด้วยความผิดพลาดน้องสามารถต่อต่อได้ที่ call center
ข้อจำกัดความรับผิด
น้องรับทราบว่าเป็นดุลยพินิจของเราแต่เพียงผู้เดียวในการยุติการเข้าถึงการใช้บริการของน้อง และ/หรือบล็อกการเข้าถึงบริการของน้อง หากเราพิจารณาว่าน้องได้ละเมิด ข้อตกลงและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ ทั้งนี้ ขอบเขตความรับผิดชอบของเราจะถูกจำกัดแค่จำนวนเงินที่น้องได้ชำระเพื่อซื้อสินค้าและหรือบริการเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ
เราสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ระงับ ยกเลิกเนื้อหาในเว็บไซต์ หรือบริการทั้งหมด หรือบางส่วนได้ตลอดเวลา ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้อาจได้รับการแก้ไขเนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ หรือแม้แต่ในกรณีที่มีกฎหมายใหม่เกิดขึ้น ดังนั้น กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขนี้เป็นครั้งคราวเมื่อเข้าใช้บริการ เราจะแจ้งให้น้องทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญเกิดขึ้นและจะขอคำยินยอมจากน้องในกรณีที่จำเป็นด้วยเช่นกัน
กฎหมายที่ใช้บังคับ
การระงับข้อพิพาทที่เกิดจากข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ จะอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และเขตอำนาจของศาลไทย โดยไม่พิจารณาถึงหลักกฎหมายขัดกัน นอกจากนี้ หากมีส่วนหนึ่งส่วนใดของ ข้อตกลงและเงื่อนไขนี้ ขัดหรือแย้งกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน หรือที่จะถูกประกาศขึ้นในอนาคต เป็นเหตุให้ส่วนหนึ่งส่วนใดเช่นว่านั้นไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับได้ หรือเป็นโมฆียะ หรือเป็นโมฆะ ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดเฉพาะส่วนนั้นไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับ หรือเป็นโมฆียะ หรือตกเป็นโมฆะ แล้วแต่กรณี แต่ทั้งนี้ไม่กระทบถึง ข้อตกลงและเงื่อนไขในส่วนที่เหลือซึ่งยังคงมีผลบังคับอยู่ และมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
การติดต่อระหว่างน้องกับเรา
เราจะดำเนินการติดต่อ แจ้งข้อมูล ข่าวสาร ที่น้องควรทราบผ่านช่องออนไลน์เป็นหลัก โดยหากน้องมีปัญหาการใช้บริการ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับบริการ โทร call center 02-251-9456
ประกาศเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565
บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (“บริษัท”) มีจุดมุ่งหมายที่จะให้บริการด้านการศึกษาแบบครบวงจร ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว บริษัทอาจมีความจำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“ท่าน”) โดยบริษัทมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) ซึ่งอธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของท่าน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ โดยบริษัทขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้ก่อนการใช้บริการ และในการใช้บริการแต่ละครั้ง ถือว่าท่านได้อ่านและรับทราบเงื่อนไขรายละเอียดนโยบายฉบับนี้แล้ว
1.คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” | หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ข้อมูลของนิติบุคคล ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมลที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมลกลุ่มของบริษัท ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) เป็นต้น |
“ข้อมูลอ่อนไหว” | หมายถึง ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน และอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด |
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” | หมายถึง ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเอง โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนี้หมายถึง บุคคลธรรมดาเท่านั้น และไม่รวมถึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด |
“ประมวลผล” | หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผย (โดยการส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ) การจัดเรียง การนำมารวมกัน การบล็อกหรือจำกัด การลบหรือการทำลาย เป็นต้น |
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” | หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” | หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
“คุกกี้” | หมายถึง ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น |
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” | หมายถึง บุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทให้มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 |
2.ประเภทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) แต่ละฉบับ ซึ่งแยกตามประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และแยกตามกิจกรรมที่มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
2.1 ลูกค้า/ผู้รับบริการ | หมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้า และ/หรือใช้บริการจากบริษัท ผู้สมัครเป็นสมาชิก และให้หมายความรวมถึง บุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทน หรือมีอำนาจดำเนินการแทนลูกค้า |
2.2 คู่ค้า | หมายถึง บุคคลธรรมดา ตัวแทนของนิติบุคคล เช่น กรรมการ ผู้มีอำนาจลงนาม ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ผู้ปฏิบัติงาน พนักงาน และลูกจ้างของนิติบุคคลที่ได้เข้าร่วม หรือจะเข้าร่วมทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัท และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัท อาทิ ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร ผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัท เป็นต้น |
2.3 บุคลากรของบริษัท | หมายถึง ลูกจ้าง หรือบุคคลซึ่งทำงาน หรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัท และได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนจากบริษัท เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน บุคลากร หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัท และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับสมัครงาน เช่น บุคคลในครอบครัว บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง (Reference Person) ผู้รับผลประโยชน์ เป็นต้น |
2.4 ผู้สมัครงาน | หมายถึง บุคคลที่ได้ยื่นใบสมัครงาน/สมัครฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวมาที่บริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อสมัครงาน/สมัครฝึกงาน เป็นพนักงานประจำ หรือพนักงานอัตราจ้าง และให้หมายความรวมถึงพนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน outsource/พนักงาน freelance /ผู้ฝึกงาน/ผู้ขอรับทุน ซึ่งยังไม่ได้รับคัดเลือกจากบริษัท และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัคร และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น |
2.5 ผู้ถูกบันทึกภาพ CCTV | หมายถึง บุคคลที่เดินผ่าน หรือบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่บริษัท รวมถึงบุคคลที่อยู่ในบริเวณที่กล้องวงจรปิด (CCTV) ของบริษัทกำลังทำงาน |
2.6 ผู้ถูกถ่ายภาพ | หมายถึง นายแบบ นางแบบ พรีเซนเตอร์ ผู้ที่รับจ้างหรือได้รับค่าตอบแทนจากการถ่ายภาพ บุคลากรของบริษัท ผู้ที่ได้รับรางวัล/ทุนการศึกษา รวมถึงบุคคลที่ยินยอมให้บริษัทบันทึกภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ระหว่างการสัมภาษณ์ การอบรม การเรียน บรรยากาศระหว่างการจัดกิจกรรม หรือการถ่ายภาพรวม (ภาพหมู่) |
2.7 ผู้เข้าร่วมกิจกรรม | หมายถึง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม แคมเปญต่าง ๆ ของบริษัท หรือที่บริษัทจัดขึ้น หรือผู้ลงทะเบียน ผู้เข้าร่วมอบรม สัมมนา รวมถึง บุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น |
2.8 โครงการทุนเปลี่ยนชีวิต | หมายถึง ผู้สมัครขอรับทุนการศึกษา ผู้เข้าร่วมโครงการ LIFE CHANGING PROGRAM ทุนเปลี่ยนชีวิต หรือโครงการที่เกี่ยวข้องซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเยาวชนไทยที่ต้องการโอกาสและทุนทรัพย์ หรือโครงการอื่นๆ ที่สนับสนุนเยาวชนไทย ด้วยการกระจายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา ให้เข้าถึงเยาวชนที่ต้องการโอกาสและทุนทรัพย์ |
2.9 บุคคลทั่วไป | หมายถึง บุคคลทั่วไปที่มีนิติสัมพันธ์หรือติดต่อกับบริษัท เช่น ผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันของบริษัท ผู้ติดต่อ Call Center ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลจากบริษัท ผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัท บุคคลอื่นใดนอกเหนือจากบุคคลตามประเภท 2.1 – 2.8 ข้างต้น |
2.10 คุกกี้ | บริษัทอาจใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผ่านคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ ได้แก่ ที่อยู่ไอพี (IP Address) เบราว์เซอร์ที่ใช้งาน หรือระบบปฏิบัติการ หน้าเว็บไซต์ที่เข้าชม และเว็บไซต์ต้นทางที่ผู้เข้าชมเชื่อมโยงมาที่เว็บไซต์ ซึ่งเทคโนโลยีอัตโนมัตินี้อาจรวมถึงการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน โปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้ |
3.การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ที่ระบุถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีการแจ้งถึงรายละเอียดการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รับรู้ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือโดยข้อความสั้น หรือตามแบบวิธีการอื่นใด ที่บริษัทกำหนด ซึ่งบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อน หรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ถึงรายละเอียด อย่างน้อยตามหัวข้อดังต่อไปนี้ เว้นแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทราบถึงรายละเอียดนั้นอยู่แล้ว
- ระบุประเภทของกลุ่มบุคคลที่บริษัทมีการเก็บรวบข้อมูลส่วนบุคคล
- อธิบายถึงวัตถุประสงค์และวิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ระบุถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
- ระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- ระบุสิทธิทั้งหมดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ระบุวิธีการใช้สิทธิแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการถอนความยินยอมจากการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
- ระบุถึงมาตรการที่ดำเนินการทั้งหมดเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ระบุช่องทางการติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อ หรือสอบถามเพิ่มเติม หรือใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ระบุประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกองค์กรที่อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลโดยมิชอบ ซึ่งบริษัทและบุคคลภายนอกที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
1) บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้โดยมีการจำกัดสิทธิการเข้าถึงและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นธรรม ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และจะประมวลผลภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ ก่อนการดำเนินการดังกล่าว บริษัทจะให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยข้อความสั้น หรือตามแบบวิธีการของบริษัท
2) บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
ก.เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัท จะจัดให้มีมาตรการป้องกันเหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข.เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ค.เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
จ.เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่บริษัท
จ.เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ฉ.เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
3) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน หรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เพื่อการให้บริการบางรูปแบบ เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อท่านสมัครใจเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ หรือเมื่อเป็นกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยอ้างอิงฐานทางกฎหมาย (Lawful Basis) อย่างน้อยฐานใดฐานหนึ่งตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
ก. เป็นการดำเนินการโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล โดยที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้
ค.เพื่อการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิ สมาคม องค์กรไม่แสวงหากําไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงานโดยมีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม
ง.เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
จ. เป็นการจําเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ฉ.เป็นการจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมิณความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง ประโยชน์ด้านสาธารณสุข การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติ หรือประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
4) ในกรณีที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทจะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับนโยบายฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของบุคคลที่เป็นผู้เยาว คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทจะดำเนินการ ดังนี้
1) ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) โดยบริษัทอาจประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์ในการใช้บริการตามที่ท่านให้ให้ความยินยอมไว้ ซึ่งบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวโดยคำนึง ถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสูงสุดโดยมีเงื่อนไข ดังนี้
(ก) ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งสามารถดำเนินการที่สมแก่ฐานานุรูปได้ด้วยตนเอง เช่น การดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษา การสมัครเรียนพิเศษเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมและเป็นประโยชน์กับผู้เยาว์ การเป็นลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน ในความเกี่ยวพันกับการประกอบธุรกิจ หรือในกิจการใดที่ผู้เยาว์สามารถกระทำได้เองหรือที่ผู้เยาว์มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว โดยในการให้ความยินยอมใด ๆ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีฐานะเสมือนเป็นผู้บรรลุนิติภาวะสามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ความยินยอมบางอย่าง จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ด้วย และในกรณีที่ผู้เยาว์อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง
(ข) คนเสมือนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ เนื่องจากมีกายพิการ หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น จนไม่สามารถจะจัดทำการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว ทั้งนี้ ในการให้ความยินยอมใด ๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถนั้นก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ความยินยอมบางอย่าง ไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อน
(ค) คนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เนื่องจากเป็นบุคคลวิกลจริต ทั้งนี้ ในการให้ความยินยอมใด ๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถนั้นก่อน
2) กรณีที่ต้องขอความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) บริษัทจะขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง และให้บุคคลผู้มีอำนาจปกครองเหล่านั้นเป็นผู้ดำเนินการแทนเท่านั้น ซึ่งบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลเหล่านั้น เป็นข้อมูลที่บริษัทมีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทได้ โดยบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอน ที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวตามประเภทของกิจกรรม
6. การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยในกรณีใด ๆ ที่บริษัทต้องการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนที่จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้ดำเนินการได้
6.2 บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และในกรณีที่บริษัทใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก บริษัทจะจัดให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและมีการควบคุมการเข้าถึง ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะกำกับดูแลพนักงาน ผู้ให้บริการเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทกำหนดหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก
6.3 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่บริษัทจัดเก็บในปัจจุบัน และที่จะได้จัดเก็บในอนาคต ให้แก่บริษัทในกลุ่มบริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตามรายชื่อที่ปรากฏบนเว็บไซต์ www.learn.co.th พันธมิตร คู่ค้า บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นภายในขอบเขตตามที่มีข้อตกลงร่วมกัน และที่ท่านสามารถคาดหมายได้
7. หลักการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นธรรม โปร่งใสและคำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งนี้การกำหนดขอบเขตวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำได้เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายและแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท
7.2 บริษัทจะจัดให้มีกระบวนการและการควบคุมเพื่อบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในทุกขั้นตอนให้สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
7.3 บริษัทจะจัดทำและรักษาบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Records of Processing Activities: ROPA) สำหรับบันทึกรายการและกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายรวมทั้งจะปรับปรุงบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
7.4 บริษัทจะจัดให้มีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการแจ้งวัตถุปุระสงค์การเก็บรวบรวมและรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notices) และการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสอดคล้องกับกฎหมายรวมทั้งจัดให้มีมาตรการดูแลและตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
7.5 บริษัทจัดให้มีแนวทางในการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องรู้ และเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนตามคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ว่าจ้าง หรืออยู่ในขอบเขตของงานที่จ้างเท่านั้น โดยในกรณีที่บริษัทเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ระบุในสัญญา และอยู่ในขอบเขตของงานที่จ้างเท่านั้น และจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.6 ในกรณีที่บริษัท ส่ง โอน หรือให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
7.7 ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอน ข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย
7.8 บริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกำหนดระยะเวลาโดยปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท
7.9 บริษัทจะประเมินความเสี่ยงและจัดทำมาตรการเพื่อบรรเทาความเสี่ยงและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.10 บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนและปรับปรุงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ(Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้ทันสมัยสอดคล้องกับกฎหมายและสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา
8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลเจ้าของข้อมูลไว้ตามประเภทกิจกรรม และวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังที่ระบุใน ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) บนเว็ปไซต์ของบริษัท หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บจากระบบของบริษัท และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัท (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัท สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด
อย่างไรก็ดี บริษัท อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัท การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย
9.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้สิทธิแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้มีสิทธิตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดดังต่อไปนี้
9.1 สิทธิในการถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท
9.2 สิทธิในการขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิในการร้องขอให้เปิดเผยการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคล
9.3 สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไป
9.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้
9.5 สิทธิในการร้องขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
9.6 สิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
9.7 สิทธิในการร้องขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิในการร้องเรียนกรณีที่บริษัท หรือลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างของบริษัทฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลผ่าน แบบฟอร์มร้องเรียนการประมวลผลข้อมูล
ทั้งนี้ บริษัทเคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม หรือวิธีการที่บริษัทใช้ติดต่อท่าน โดยบริษัทจะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อคุณภาพของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูล โดยการร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กฎหมายกำหนด จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีขึ้นในเว็บไซต์ของบริษัท หรือกรณีท่านประสงค์จะใช้สิทธิถอนความยินยอมท่านสามารถเข้าไปที่ การตั้งค่าในแอปพลิเคชันที่ท่านเป็นสมาชิก หรือกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณีท่านประสงค์ใช้สิทธิถอนความยินยอมสามารถกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มคำขอถอนความยินยอม
10. การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงกำหนดนโยบาย ระเบียบ แนวปฏิบัติ และขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1) กำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างปลอดภัย
2) ไม่จำหน่ายหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่ากรณีใด และจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
3) จำกัดสิทธิลูกจ้างของบริษัท ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึง หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล
4) ป้องกันการเข้าถึงนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีการเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น
5) ตรวจสอบสถานะ คู่ค้าของบริษัท กำหนดให้คู่ค้าที่ทำธุรกิจกับบริษัท ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกำหนดข้อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
6) ติดตามตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
7) กำหนดให้ลูกจ้างของบริษัท เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
8) ประเมินผลแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลทางเทคนิค ทางกายภาพ และทางธุรการที่เหมาะสม รวมถึง ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป
9) จัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
10) จัดให้มีระบบการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่งโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
11.การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ บริการของบุคคลภายนอก
เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการ และข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นให้ละเอียดก่อนการใช้บริการเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้
- บริษัทมีตัวเลือกให้ผู้ใช้ส่งออกข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม รวมถึงไซต์เครือข่ายสังคม ซึ่งรวมถึงแต่ ไม่จำกัดเฉพาะ Facebook, Twitter หรือ LinkedIn เมื่อส่งออกข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าผู้ใช้อาจกำลังเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ให้กับบุคคลอื่นหรือองค์กรอื่นที่รับผิดชอบด้านการดำเนินการและบำรุงรักษาแอปพลิเคชันและไซต์ของบุคคลที่สาม บุคคลอื่นที่เข้ามาดูหรือใช้แอปพลิเคชันหรือไซต์เหล่านั้นอาจเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้ บริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของหรือดูแลจัดการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เชื่อมต่อ บริษัทจึงขอแนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในลักษณะนี้ และผู้ใช้ควรทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้นเพื่อรับรองว่าผู้ใช้พอใจกับวิธีที่เว็บไซต์เหล่านั้นใช้ข้อมูลที่ผู้ใช้มอบให้กับพวกเขา
- บริษัทมีการใช้งาน Google Analytics เพื่อเรียกดูข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ รวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลของ เบราเซอร์ ข้อมูลของอุปกรณ์ ประเทศที่อยู่ เพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเพื่อการนำเสนอและโฆษณาสินค้าและบริการของมันนี่คลาสที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละราย โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่นใดนอกเหนือจากใช้งานภายในบริษัทฯหากผู้ใช้ไม่ต้องการให้ Google Analytics สามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ สามารถเลือกที่จะปิดการบันทึกการใช้งานผ่านเครื่องมือของ Google ทาง https://tools.google.com/dlpage/gaoptout/
- บริษัทใช้งาน Hotjar เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้และปรับปรุงประสบการณ์การให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการเก็บบันทึกพฤติกรรมการใช้งานแพลตฟอร์ม เช่น ระยะเวลาที่ใช้ในการดูข้อมูลแต่ละหน้า การกดลิงค์ การกดปุ่ม หรือการบันทึกวีดิโอหน้าจอขณะกำลังใช้งาน Hotjar มีการใช้งานคุกกี้และเทคโนโลยีอื่นในการเก็บบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ ประเภทของอุปกรณ์ ขนาดของอุปกรณ์ IP address ของอุปกรณ์ ข้อมูลของเบราเซอร์ ประเทศที่อยู่ ภาษาที่ใช้งาน โดย Hotjar ไม่มีนโยบายในการเก็บข้อมูลที่เป็นส่วนตัว เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต และไม่มีนโยบายในการขายข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลใด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hotjar ได้ทางเว็บไซต์ https://help.hotjar.com/
12.การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
ในกรณีที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่วันที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม ซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมเมื่อใดก็ได้ โดยติดต่อมายังบริษัทผ่านการ กรอกแบบฟอร์มขอถอนความยินยอม หรือเลือกจัดการความยินยอมของท่านได้ โดยเข้าไปที่การตั้งค่า การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ในแอพพลิเคชั่นของบริษัทที่ท่านเป็นสมาชิก
13.ช่องทางการติดต่อ
บริษัท ได้มอบหมายให้ บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้ ผ่านช่องทาง ดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล : DPO@Learn.co.th
ที่อยู่ : 444 อาคารเอ็ม บี เค ทาวเวอร์ ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
14.การทบทวน
บริษัทอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ท่านทราบผ่านช่องทางที่เว็บไซต์ และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท
ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
เว็บไซต์นี้ให้บริการโดยบริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (“บริษัท”) ซึ่งมีการใช้คุกกี้เป็นเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการใช้คุกกี้นี้ จะอธิบายถึงความหมาย ประเภท ลักษณะการใช้งานคุกกี้ ระยะเวลาที่คุกกี้จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ และทางเลือกเกี่ยวกับการตั้งค่าคุกกี้ของผู้ใช้งาน
คุกกี้คืออะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของท่านเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์หรือแอพลิเคชัน ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น บันทึกข้อมูลการตั้งค่าภาษาบนอุปกรณ์ของท่าน บันทึกสถานะการเข้าใช้งานในปัจจุบันของท่าน เพื่อช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน (รวมเรียกว่า “บริการ”) ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าใช้งานบริการที่ท่านชื่นชอบในรูปแบบไฟล์ โดยการใช้คุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของท่าน และเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยบริการที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
ประโยชน์ของคุกกี้
คุกกี้จะบอกให้บริษัททราบว่าท่านเข้าใช้งานส่วนใดในบริการของบริษัท เพื่อที่บริษัทสามารถมอบประสบการณ์การใช้บริการที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้ นอกจากนี้ การบันทึกการตั้งค่าแรกของบริการด้วยคุกกี้จะช่วยให้ท่านเข้าถึงบริการด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งาน ยกเว้นในกรณีที่คุกกี้ถูกลบซึ่งจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างจะกลับไปที่ค่าเริ่มต้น
การใช้งานคุกกี้
บริษัทใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่น เช่น พิกเซลแท็ก (Pixel-tags) บนบริการของบริษัท (รวมเรียกว่า “บริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้”) ดังนั้น บริการใดก็ตามที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงบริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้จะได้รับคุกกี้จากบริษัท
เมื่อท่านเข้าถึงบริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้ คุกกี้ของบริษัทจะถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์ของท่านเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการใช้และประวัติการใช้บริการ ข้อมูลหรือบริการที่ท่านสนใจ รวมถึงหมายเลขอ้างอิงการเข้าใช้บริการล่าสุดของท่าน เป็นต้น
บริษัทจะใช้คุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอพลิเคชันของบริษัท โดยการใช้งานคุกกี้แบ่งออกตามลักษณะของการใช้งานได้ ดังนี้
- คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
คุกกี้ที่จำเป็น คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานที่จำเป็นของเว็บไซต์ และท่านไม่สามารถปิดการใช้งานในระหว่างการเข้าหน้าเว็บไซต์ของบริษัทได้ ซึ่งคุกกี้ประเภทนี้จะมีไว้เพื่อการจัดเก็บข้อมูลของท่านและตอบสนองต่อความต้องการที่ได้รับการร้องขอจากท่าน เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว การเข้าสู่ระบบ หรือการกรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น ทั้งนี้ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ผ่านระบบของเว็บไซต์ของบริษัทได้
- คุกกี้การใช้งาน (Functional Cookies)
คุกกี้การใช้งาน คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานกับเว็บไซต์และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานหน้าเว็บไซต์ของบริษัท ตามความต้องการของท่าน เช่น จดจำชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า การตั้งค่าปุ่มทางลัด เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าเว็บไซต์ หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน อาจส่งผลต่อการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์
- คุกกี้กำหนดเป้าหมาย (Targeting Cookies)
คุกกี้กำหนดเป้าหมาย คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของบริษัท โดยคุกกี้ประเภทนี้จะสร้างเป็นโปรไฟล์ เพื่อระบุว่าท่านสนใจหรือชอบในสิ่งใดเป็นพิเศษบนเว็บไซต์ของบริษัท คุกกี้เหล่านี้ทำงานโดยการระบุแต่ละเบราว์เซอร์และรหัสอ้างอิงของอุปกรณ์ท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน ท่านจะไม่ได้รับข้อมูลการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของบริษัทบนเว็บไซต์
- คุกกี้วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)
คุกกี้วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ คือคุกกี้ที่ใช้สำหรับจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ อีกทั้งใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์โดยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย หากท่านไม่อนุญาตให้บริษัท ใช้คุกกี้ประเภทนี้ บริษัทจะไม่สามารถวัดผลการทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์บริษัทได้
การใช้คุกกี้โดยบุคคลที่สาม (Third-Party Cookies)
บริษัทอาจใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกต่าง ๆ เพื่อการรายงานสถิติของการให้และใช้บริการ การโฆษณาที่แสดงผ่านการให้บริการของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกนำไปใช้โดยบุคคลภายนอก เช่น โดยระบบวิเคราะห์ (analytics) ของบุคคลภายนอกต่าง ๆ เช่น Facebook Google และ Youtube นอกจากนี้คุกกี้เหล่านี้ยังอาจมีการนำไปใช้โดยผู้ให้บริการ targeting แก่บริษัท ในการปรับปรุงเนื้อหาทางการตลาดออนไลน์ให้มีความเหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของท่านมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทไม่สามารถควบคุมการใช้งานคุกกี้ของบุคคลภายนอกได้ บริษัทจึงขอให้ท่านพิจารณานโยบายการใช้คุกกี้ตามแต่ละเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม
ระยะเวลาที่คุกกี้จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของท่าน
มีคุกกี้ 2 ประเภทที่ถูกจัดเก็บไว้
- คุกกี้แบบช่วงเวลา (Session Cookies) จะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อคุณปิดเบราว์เซอร์
- คุกกี้ถาวร (Persistent Cookies) จะยังคงอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการจนกระทั่งหมดอายุ หรือถูกลบทิ้ง Persistent cookies สามารถเก็บข้อมูลความสนใจของผู้ใช้บริการทำให้การเข้าใช้เว็บไซต์ครั้งต่อ ๆไปของผู้ใช้บริการง่ายและใกล้เคียงกับความสนใจของผู้ใช้บริการมากขึ้น
ทางเลือกเกี่ยวกับคุกกี้
หากท่านประสงค์จะลบคุกกี้หรือสั่งให้เว็บเบราว์เซอร์ของท่านลบหรือปฏิเสธคุกกี้ ท่านสามารถดำเนินการได้ดังต่อไปนี้
- ท่านสามารถจัดการการใช้งานคุกกี้ที่ท่านใช้บนคอมพิวเตอร์ของท่านได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน และสามารถรับการเตือนทุกครั้งก่อนที่เว็บเบราว์เซอร์ของท่านจะทำการเก็บคุกกี้ไว้บนคอมพิวเตอร์ของท่าน
- เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะรับคุกกี้โดยอัตโนมัติ หากท่านไม่ได้ตั้งค่าอะไรไว้โดยเฉพาะท่านสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าโดยการกดตั้งค่าไม่ให้เว็บเบราว์เซอร์ของท่านรับคุกกี้
ท่านสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการใช้งานคุกกี้บุคคลภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดออนไลน์ได้โดยการลบคุกกี้ทิ้งตามประเภทเว็บเบราว์เซอร์ของท่านโดยทำตามแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการการใช้งานคุกกี้สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ต่าง ๆ
โปรดทราบว่าหากท่านลบหรือปฏิเสธการใช้คุกกี้ ท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการของเว็บไซต์ของบริษัทได้อย่างสมบูรณ์ ท่านอาจไม่สามารถทำการเก็บประวัติการใช้งานของท่านได้ และท่านอาจดูหน้าเว็บไซต์ของบริษัทบางหน้าได้ไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ท่านอาจไม่สามารถใช้ฟังก์ชันบางประเภทของเว็บไซต์ของบริษัทได้ หรืออาจจะสามารถใช้ได้อย่างจำกัดเท่านั้น
แนวปฏิบัติสำหรับการจัดการการใช้งานคุกกี้สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ต่าง ๆ
- Google Chrome
https://support.google.com/chrome/answer/95647?co=GENIE.Platform%3DDesktop&hl=en
- Microsoft Internet Explorer
- Safari and IOS
https://support.apple.com/en-us/HT201265
- Firefox
การปรับปรุงการใช้นโยบายคุกกี้
เนื้อหานโยบายการใช้คุกกี้นี้จะถูกปรับปรุงหรือแก้ไขให้เหมาะสมกับรูปแบบและความจำเป็นในการใช้งานคุกกี้ของหน้าเว็บไซต์บริษัท ท่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาของนโยบายการใช้คุกกี้ที่เป็นฉบับล่าสุดที่เว็บไซต์ของบริษัท ได้ตลอดเวลา
ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
ในกรณีที่ท่านต้องการทราบวิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิที่ท่านมีอยู่ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ที่ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ประกาศ เมื่อ 31 มีนาคม 2565
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ ผู้สมัคร
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ พนักงาน
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ คู่ค้าทางธุรกิจ
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ ลูกค้า
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ บุคคลทั่วไป
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ กล้องวงจรปิด
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ ภาพถ่าย
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ การจัดกิจกรรม
- ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับโครงการทุนเปลี่ยนชีวิต