คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยประถม กำลังเจอปัญหานี้อยู่ใช่หรือไม่?
• เรียนออนไลน์ พ่อแม่เหนื่อย ลูกไม่อยากเรียน สุดท้ายทะเลาะกัน จะกลับไปเรียนที่โรงเรียนลูกก็ดูไม่พร้อม ไม่อยากไป
• อยากให้ลูกเข้าม.1 โรงเรียนดีๆ แต่ลูกไม่อิน ไม่อ่านหนังสือ ไม่อยากติว อยากเล่นมากกว่า
• ไม่รู้ว่าลูกชอบอะไร อยากเป็นอะไร จะสร้างพื้นฐานที่ดีให้ลูกได้อย่างไร
• โรงเรียนไหนเป็นอย่างไร ควรให้ลูกเข้าที่ไหนดี?
น้องๆ ประถม-มัธยมต้น เป็นวัยที่กำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวได้ดี และสิ่งแวดล้อมก็มีผลเป็นอย่างมากกับพัฒนาการทั้งทางด้านสังคม อารมณ์ และความคิด ดังนั้นผู้ปกครองหลายท่านจึงอยากให้บุตรหลานมีโอกาสสอบเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง หรือ โรงเรียนชั้นนำต่างๆ
3 วิธีง่ายๆ รู้ว่าลูกชอบอะไร และควรเรียนโรงเรียนไหนดี
1. สังเกตว่าเวลาว่างน้องๆ ชอบทำอะไร
การศึกษาเด็กๆ ในเวลาที่เขาทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรก็ตาม วาดรูประบายสี หรือแม้แต่การเล่นเกมก็สามารถบอกความชอบของลูกในขณะนั้น และต่อยอดเพื่อค้นหาตัวตนในอนาคตได้ เช่น ถ้าลูกชอบเล่นเกม ลองเริ่มจากการตั้งคำถามว่าอยากรู้ไหมว่าเกมที่เล่นอยู่สร้างขึ้นมาได้อย่างไร แล้วลองให้น้องลงคอร์สเรียน Python เบื้องต้นสำหรับเด็กดูเลย ก็ยิ่งดีจะได้รู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอย่างไร
2. ศึกษาหลักสูตรที่ซัพพอร์ตความชอบของน้องๆ และควรพาน้องไปเดินชมแต่ละโรงเรียนด้วยตัวเอง
ที่โบราณว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่นั้นใช้ได้เสมอ ในเมื่อน้องจะต้องเรียนที่โรงเรียนนั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี เขาควรที่จะมีสิทธิ์เลือกสภาพแวดล้อมที่ตนเองชอบและผู้ปกครองต้องเลือกโรงเรียนที่มีการสนับสนุนความสามารถที่น้องๆ สนใจ เช่น ถ้าเขาสนใจการทดลองและวิทยาศาสตร์ ควรเลือกเรียนในโรงเรียนที่มีการผลักดันด้านวิทยาศาสตร์เป็นพิเศษ เพื่อให้ความสามารถที่น้องๆ ถนัดได้พัฒนาอย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. ใช้สิ่งที่เขาชอบเป็นรางวัลหลังจากติวหรืออ่านหนังสือครบกำหนดเพื่อเป็นการเสริมแรงทางบวก
พี่ๆ ไม่แนะนำให้ผู้ปกครอง งด หรือ ห้าม ไม่ให้เด็กๆ ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบเพื่อบังคับให้น้องติวหนังสือ การเสริมแรงในทางลบมักไม่ได้ผลกับเด็กในวัยนี้ เพราะเขาจะยิ่งต่อต้าน และมองการติวหนังสือในทางลบ แต่เราสามารถพลิกแพลงเปลี่ยนเป็น การอนุญาตให้เขาทำสิ่งที่ชอบ เช่น เล่นเกม กินขนม ซื้อของเล่น ได้ในเวลาหรือจำนวนจำกัด แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาในการติวให้มากขึ้นเพื่อให้น้องๆ ปรับตัวได้และมีกำลังใจในการอ่านหนังสือด้วย
วิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลง เมื่อน้องประถมก้าวเข้า ม.1
1. รับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม
น้องๆ จะต้องย้ายจากโรงเรียนประถมมาสู่โรงเรียนมัธยมต้น ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมทั้งหมด เพิ่มความรับผิดชอบมากขึ้น จัดการการบ้านที่มากขึ้น การตัดเกรดที่เข้มข้นขึ้น มีการติด 0 ติด ร มผ. ที่คุณครูจะจริงจังกว่าวัยประถม
2. รับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
น้องๆ อาจจะต้องย้ายโรงเรียนไป เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ ต้องปรับตัวค่อนข้างมากในการเข้ากลุ่ม เพราะ เด็กๆ วัยนี้เริ่มต้องการการยอมรับจากสังคมมากขึ้น น้องๆ อาจมีความเครียดเกี่ยวกับเรื่องเพื่อน และจะต้องแบ่งเวลาให้กับการเรียนให้ดีด้วย ส่วนนี้ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด ถามไถ่ด้วยน้ำเสียงที่น่าไว้ใจพึ่งพาได้ เพื่อให้เด็กไว้ใจที่จะเล่าให้เราปัญหาให้ฟัง ไม่ตะคอกหรือใส่อารมณ์
3. รับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านวิชาการ
เนื้อหาในการเรียนจะยากขึ้น เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น จากมีคณิตศาสตร์วิชาเดียว ก็จะมีคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ที่ยากข้นกว่าเดิมเพิ่มขึ้นมาอีก น้องๆ ที่ไม่ไ้ด้มีการปูพื้นฐานมาก่อนอาจจะตกใจ ทำให้เรียนตามไม่ทัน ผลการเรียนตกและกระทบต่อจิตใจได้ หากน้องๆ มีพื้นฐานที่ดีก่อนเข้าเรียนจะช่วยให้ไม่เครียดและเข้าใจบทเรียนในห้องได้ดีขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่าง 3 โรงเรียนดัง : จุดเด่นและอัตราการแข่งขัน ปี 65
1.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (ชายล้วน)
โรงเรียนดังใจกลางเมืองเก่า รถเมล์ผ่านหลายสาย อยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน อาหารการกินพร้อม นับถือความเป็นรุ่นพี่-รุ่นน้องกันอย่างแน่นแฟ้น
จุดเด่น: หลักสูตรเข้มข้น ส่งเสริมกิจกรรม ปลูกผังความเป็นสุภาพบุรุษ มีการดูงานนอกสถานที่เพื่อให้เด็กค้นหาตัวเอง ส่วนใหญ่จบมาเป็นผู้นำของภาคส่วนต่างๆ มีอัตราสอบเข้ารับราชการทหารสูง
อัตราการแข่งขันปี 65
รับ 249 คน สมัคร 1,437 คน
อัตราการแข่งขัน 1:4.89 คน
วิธีการสอบเข้า
สอบ 5 วิชา ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ วิชาละ 20 คะแนน รวมทั้งหมด 100 คะแนน
2.โรงเรียนศึกษานารี (หญิงล้วน)
โรงเรียนนี้เป็นสังคมที่มีแต่ผู้หญิงจึงค่อนข้างสนิทสนมกัน สื่อการสอนมีความพร้อมมาก เน้นปลูกฝังจิตสาธารณะ
จุดเด่น: ห้องธรรมดาเลิกเรียน 14.30 น.โดยมีเรียนเสริมตามความสมัครใจหลังเลิกเรียน มีห้องพิเศษ AP เน้นวิทย์-คณิต และห้อง EP ที่เน้นภาษา สอนโดยชาวต่างชาติ
อัตราการแข่งขันปี 65
รับ 462 คน สมัคร 732 คน
อัตราการแข่งขัน 1:1.580
วิธีการสอบเข้า
คะแนนสอบคัดเลือก 5 รายวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ 25 คะแนน วิทยาศาสตร์ 25 คะแนน ภาษาอังกฤษ 25 คะแนน ภาษาไทย 25 คะแนน และสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 25 คะแนน รวมเป็นคะแนน 125 คะแนน
3.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
โรงเรียนร่มรื่นน่าอยู่ สังคมดี มีความอบอุ่น รุ่นพี่รุ่นน้องสนิทกัน มีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำตัว รถเมล์ผ่านไม่กี่สาย นักเรียนจะนิยมขึ้น BTS มาลงที่สถานีอารีย์
จุดเด่น: มีห้อง MSEP ที่เน้นวิทย์-คณิต และคอมพิวเตอร์ เรียนเป็นภาษาอังกฤษเหมือนหลักสูตร EIS หรือที่เรียกว่า English integrated study คือ การเรียนการสอนโดยการบูรณาการใช้ภาษาอังกฤษจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใน 4 สาระวิชา คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ มีวิชาเสริมคาบ 9-10 ที่มีเนื้อหาเกินหลักสูตร หรือได้ทดลองต่างๆ
อัตราการแข่งขันปี 65
รับ 252 คน สมัคร 867 คน
อัตราการแข่งขัน 1:3.44
วิธีการสอบเข้า
สอบ 5 วิชา ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ วิชาละ 20 คะแนน รวมทั้งหมด 100 คะแนน
(ข้อมูลจาก: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต1 และ เขต 2)
วันนี้พี่ๆ ออนดีมานด์มีคำตอบมาให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เตรียมตัวในการสอบให้กับน้องๆ กันแล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเข้าเรียนต่อของน้องทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ
อย่าลืมกด LIKE 👍 Facebook Fanpage ของ ออนดีมานด์ OnDemand ประถม เพื่อไม่ให้พลาด สาระดีๆ ข่าวสาร และสิทธิพิเศษ นะคร้าบบ