5 เทคนิค เตรียมตัวสอบแพทย์ TCAS64 ยังไงให้ฉลุย!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้องๆ หลายคนกำลังขะมักเขม้น เตรียมตัวสอบ TCAS64 ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หลายคนมีความฝันอยากสอบแพทย์ อยากเป็นหมอ แต่ก่อนที่จะสอบติดนั้น น้องจะต้องฝึกฝน อ่านหนังสือ ทบทวน ฝ่าสนามรบการสอบ ซึ่งแน่นอนไม่อาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีอุปสรรคต่างๆ ความยาก ความกดดัน หรือแม่แต่ความขี้เกียจในตัวเราเอง วันนี้พี่ๆ ออนดีมานด์มี 5 เทคนิคสำหรับการเตรียมตัวสอบแพทย์มาฝากครับ รับรองว่าทำตามเทคนี้เหล่านี้ มีโอกาสสอบติดสูงแน่นอน!
สำหรับน้องๆ ที่อยากสอบแพทย์
อย่าพลาดงานติวสุดปัง สไตล์ New Normal
เพื่อก้าวสู่เส้นทางหมอ – วิศวะ
ตอน : ติวเข้ม วิเคราะห์ตรง จบครบ เพื่อน้องๆ ยุคใหม่ที่นี่ที่เดียว
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 เวลา 8.30 – 17.00 น.
งานติวรูปแบบใหม่ เลือกได้ทั้ง Online และ On Ground
>> คลิกลงทะเบียนก่อนเต็ม <<
1. ตั้งเป้าหมายและมีความรับผิดชอบต่อเป้าหมาย
น้องๆ ที่ฝันอยากเป็นหมอ อยากสอบแพทย์ อยากเข้าคณะแพทย์ หลายคนคงตั้งเป้าหมายกันไว้ยู่แล้วว่าจะต้องสอบติดให้ได้ แต่รู้ไหมครับว่าการตั้งเป้า ไม่ใช่ว่าเราเขียนบนกระดาษแล้วตั้งไว้เฉยๆ น้องต้องมีความรับผิดชอบต่อเป้าหมายที่ตั้วเองตั้ง น้องต้องมีความพยายาม อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีวินัย มีความสม่ำเสมอ ฝึกพฤติกรรมเหล่านี้ให้เป็นนิสัย การตั้งเป้าหมาย ถ้าน้องๆ คาดหวังว่าผลลัพธ์จะต้องออกมาดี ตัวน้องเองจะกดดันนะครับ อยากให้ตั้งเป้าหมายไปที่สิ่งที่เราอยากจะทำเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ เพราะระหว่างทางนั้นสำคัญมาก ถ้าเราหลุดไปหรือไม่ทำตามทางที่วางไว้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย การสอบแพทย์ก็อาจจะไม่สำเร็จตามที่น้องตั้งเป้าไว้นะครับ
2. รู้ตัวเร็ว เตรียมตัวเร็ว ยิ่งได้เปรียบ
พี่ๆ แนะนำว่า หากน้องๆ รู้ตัวเร็วว่าน้องๆ อยากเป็นหมอ น้องควรเตรียมตัวตั้งแต่ขึ้น ม.ปลายเลยครับ รุ่นพี่หลายคนที่สอบติด ประสบความสำเร็จ มักเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ ม.4 – ม.5 หากถามว่าตอนนี้อยู่ ม.5 หรือ ม.6 แล้ว จะเตรียมตัวทันมั้ย พี่บอกเลยว่าทันครับ ถ้าน้องรู้จักวางแผนว่าควรเริ่มวิชาไหนก่อนหลัง อย่างเช่น น้องๆ หลายมักเก็บวิชา คณิตศาสตร์กับฟิสิกส์ก่อนเป็นอันดับต้นๆ เพราะพาร์ทคำนวณค่อนข้างเยอะ ต้องจำและฝึกให้มีทักษะในการคำนวณ จากนั้นค่อยเริ่มดูวิชาเคมี เพราะต้องอาศัยการอ่านและคำนวณควบคู่ ส่วนวิชาชีวะจะเน้นอ่านครับ อ่านทุกครั้งที่มีเวลา อ่านเก็บไปเรื่อยๆ นี่คือหนึ่งในเทคนิคยอดฮิต ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ
3. แบ่งเวลาให้เป็น ทั้งเรื่องเรียน เล่น และการพักผ่อน
การแบ่งเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับน้องๆ น้องอาจจะเคยฟังเทคนิคต่างๆ มากมายว่ารุ่นพี่ที่สอบแพทย์ติด เค้าแบ่งเวลากันอย่างไร แต่พี่บอกเลยว่า แต่ละคนไม่เหมือนกัน น้องไม่จำเป็นต้องทำตามรุ่นพี่ 100% แต่น้องสามารถเอาวิธีการมาปรับใช้ได้ ที่สำคัญคือ น้องต้องแบ่งเวลาเรียน เวลาทบทวนหนังสือ เวลาพักผ่อน และเวลานอนให้สมดุลกัน อย่างเช่น ใน 1 วันเรามี 24 ชม. ใช้เวลาเรียน 8 ชม. อ่านหนังสือทบทวนสิ่งที่เรียนไป 4 ชม. พักผ่อน 4 ชม. ที่เหลือเป็นเวลานอน 8 ชม. เป็นต้น หรือน้องๆ คนไหนมีวิธีจักสรรเวลาของตัวเองให้ลงตัว ลองแบ่งเวลาและนำไปปรับให้เข้ากับตัวเองดูนะครับ
4. อย่าเก็บเนื้อหาอย่างเดียว ตะลุยโจทย์ก็สำคัญ
จริงอยู่ว่าเนื้อหานั้นก็สำคัญ แต่ก็ใช่ว่าเราจะอ่านแต่เนื้อหาอย่างเดียวโดยที่ไม่สนใจฝึกทำโจทย์นะครับ เพราะมันสำคัญทั้งคู่ พี่แนะนำว่า น้องๆ ควรอ่านหนังสือให้ละเอียด เก็บรายละเอียดให้ครบ เพราะน้องจะได้ไม่มาเร่งอ่านทีหลัง หากสามารถอ่านล่วงหน้าก่อนเข้าเรียนได้จะดีมาก เพราะเวลาเรียน น้องจะเข้าใจง่ายขึ้น เมื่อเรารู้สึกแม่นเนื้อหาแล้ว ก็ให้ฝึกทำตะลุยโจทย์เยอะๆ ยิ่งทำเยอะ ยิ่งเข้าใจและมั่นใจมากขึ้น เราจะรู้ว่าเราผิดพลาดที่จุดไหน ต้องใช้ความรู้อะไรเข้ามาช่วย วิเคราะห์เป็น ทำให้เราเก่งขึ้นและทำข้อสอบได้ไวขึ้น เวลาทำข้อสอบจริง น้องๆจะมั่นใจและทำได้อย่างแน่นอน
5. เรียนพิเศษเพิ่มความมั่นใจ เก็บเนื้อหาให้ครบ
มีน้องหลายๆ คนที่รู้สึกว่า เอ๊ะ เราเก็บเนื้อหาครบดีแล้วหรือยัง หรือกลัวพลาดเนื้อหาและข้อสอบอะไรไป เลยอยากเพิ่มความมั่นใจด้วยการเรียนพิเศษ ซึ่งผิดครับน้องๆ การเรียนพิเศษมีข้อดีหลายอย่าง บางทีเรียนเนื้อหาที่โรงเรียนแล้วยังไม่เข้าใจ พื้นฐานไม่แน่น หรือตามไม่ทันเพื่อน น้องก็สามารถมาเก็บเรียนตามได้ หรือน้องที่อยากติวเข้มก่อนสอบจริง ก็สามารถเรียนพิเศษเพิ่มเติมได้ เพราะอาจารย์จะมีเทคนิคอื่นๆ มากมายที่เมื่อเรียนแล้วอาจจะเข้าใจมากกว่า ที่สำคัญ น้องจะได้ฝึกทำโจทย์ แนวข้อสอบเก่าย้อนหลังเป็นำจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยให้น้องๆ เก่งขึ้นและสอบแพทย์ได้อย่างแน่นอน
มาฟังเคล็ดลับจากรุ่นพี่ที่สอบติดแพทย์กันครับ
น้องจ๊อบ ภาวิช
ที่ 1 กสพท.
ที่ 1 แพทย์ จุฬาฯ ปี 2563
น้องภูมิ ชัยภัทร
ที่ 1 แพทย์ศิริราช ปี 2563
น้องโอม สารัช
คะแนน PAT1 และ
PAT3 สูงสุด ปี 2563