ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับ ลูกค้าและผู้รับบริการ
บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (“เรา”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว และมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และผู้รับบริการ (“น้อง”) โดยเราตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่น้องได้มอบให้แก่เราด้วยความไว้วางใจ เราจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อชี้แจงให้น้องมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่น้องมอบให้แก่เราจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของน้อง ถูกต้องตามกฎหมาย และรักษาให้ปลอดภัยตามมาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1.เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้าง
เราจะเก็บรวบรวม ใช้ เผยแพร่ (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นจะต้องใช้เพื่อให้บริการแก่น้อง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้น้องกรอกข้อมูลลงในเอกสาร หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เราได้กำหนด ซึ่งได้แก่ข้อมูล ดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการยืนยันตัวตน และการลงทะเบียนเรียนกับเรา เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน สัญชาติ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ รูปถ่ายนักเรียน ข้อมูลโรงเรียนที่ศึกษาอยู่ และข้อมูลระดับการศึกษา
- ข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดีย (Social Media Account) เช่น รายชื่อบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย โปรไฟล์เฟสบุ๊ก ไลน์ไอดี ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน เป็นต้น
- ข้อมูลประวัติการค้นหา เช่น ข้อมูลการเรียกดู ข้อมูลการขอใช้บริการ การตอบสนองต่อการโฆษณาของเรา รวมถึง เนื้อหาที่น้องเข้าชม ลิงค์ที่กดเข้าชม ฟีเจอร์ (Features) ที่น้องใช้
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียน เช่น ข้อมูลการตอบคำถาม ข้อมูลการเข้าเรียน ข้อมูลรายวิชาที่เรียน ข้อมูลคะแนนสอบ ประวัติการอบรม ผลการอบรม ใบรับรองการอบรม ใบประกาศณียบัตร เอกสารอื่นใดที่เราออกให้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการอบรม และ/หรือการสอบ เป็นต้น
- ข้อมูลที่กรอกบน website และข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ การทำแบบสำรวจ แบบสอบถาม แบบประเมินความพึงพอใจ ข้อเสนอแนะ และข้อมูลการสำรวจความคิดเห็น รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ และการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ หรือรายการอื่นในทำนองเดียวกัน
- ข้อมูลการโต้ตอบ และข้อมูลการสื่อสาร รวมถึงข้อมูลที่น้องเลือกจะแบ่งปันผ่าน Call Center ระบบ แอปพลิเคชัน และบริการต่าง ๆ ของเรา ไม่ว่าจะในรูปแบบ หรือวิธีใด ๆ ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นภาพ หรือเสียงโดยไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
- ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปกครองที่น้องหรือผู้ปกครองของน้องได้ให้ไว้แก่เรา เช่น เบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครอง ซึ่งในกรณีที่น้องเป็นผู้ให้ข้อมูลผู้ปกครอง น้องรับรองว่าได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองให้แบ่งปันข้อมูลแก่เราแล้ว
- ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่เราได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
2.เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของน้องหรือไม่
ไม่ว่ากรณีใด เราไม่มีนโยบายเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของน้อง ที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อน้องในทำนองเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โดยในกรณีที่เราขอให้น้องถ่ายรูปบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าห้องเรียนนั้น เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้อง และยืนยันตัวตนของน้องเท่านั้น โดยเราจะดำเนินการลบบัตรประชาชนของน้องทันที หลังจากตรวจสอบข้อมูลชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่ระบุบนบัตรประชาชนของน้องแล้ว โดยเราไม่มีความประสงค์จะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจัดเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลหมู่โลหิต หรือข้อมูลศาสนา ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชนก็ตาม
3.เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของน้องจากช่องทางไหน
เราเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของน้องผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่น้องให้ไว้กับเราโดยตรง จากตอนที่น้องสมัครใช้บริการ เข้าทำสัญญา หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ และเมื่อน้องเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เราจัดขึ้น โดยรวมถึงขั้นตอนที่น้องดำเนินการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ์ต่างๆ กับเรา หรือเมื่อน้องติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม ไม่ว่าจะเป็นอยู่ในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
3.2 เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของน้องมาจากบุคคลที่สาม เช่น ผู้ปกครอง โรงเรียน สถาบันการศึกษา องค์กรหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีสิทธิ หน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูล หรือที่เราอาจได้รับมาจากช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลที่สาม รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านการศึกษาที่ระบุในข้อ 8.1
3.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรา เก็บรวบรวมจากน้องโดยอัตโนมัติ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
4.วิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับน้องที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี
ในกรณีที่น้องเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี หรือเป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) เราจะขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง โดยในขั้นตอนการสมัครเรียน เรากำหนดให้บุคคลผู้มีอำนาจปกครองเหล่านั้นเป็นผู้สมัครเรียนแทนน้องเท่านั้น ซึ่งเราเชื่อโดยสุจริตว่าข้อมูลที่เราได้รับจากบุคคลเหล่านั้น เป็นข้อมูลที่เรามีสิทธิ์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิ์เปิดเผยให้แก่เราได้
ผู้มีอำนาจปกครองสามารถเลือกดำเนินการสมัครสมาชิก และเลือกรับข่าวสาร กิจกรรมเกี่ยวกับการตลาดแทนน้องได้ โดยหากได้ตกลงที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากเราแล้ว ภายหลังผู้มีอำนาจปกครองมีสิทธิ์ยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ โดยการแก้ไขความยินยอม โดยเข้าไปที่ การตั้งค่าในแอปพลิเคชั่น หรือกรณีไม่ต้องการรับอีเมลหรือจดหมายอื่น ๆ จากเรา โปรดคลิกลิงก์ “ยกเลิกการสมัคร” ในจดหมายโต้ตอบทางอีเมลที่ได้รับ รวมถึงหากประสงค์จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถดำเนินการตามรายละเอียดที่ระบุในประกาศฉบับนี้
5.วิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับน้องที่อายุ 10 – 20 ปี
ในกรณีที่น้องเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุตั้งแต่ 10 -20 ปี เราอาจประมวลผลข้อมูลของน้องโดยคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสูงสุด ซึ่งเรากำหนดเงื่อนไขให้น้องสามารถดำเนินการสมัครเรียนได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เฉพาะคอร์สเรียนที่เราพิจารณาแล้วว่า เป็นกรณีสมแก่ฐานานุรูป เหมาะสมกับวัย และการพัฒนาความรู้ของน้อง แต่อย่างไรก็ตาม น้องต้องให้การรับรองและรับประกันว่าน้องกำลังใช้บริการของเรา โดยได้แจ้งรายละเอียดการใช้บริการ และการให้ความยินยอมให้ผู้ปกครองของน้องทราบแล้ว โดยเพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้ปกครองของน้องได้ทราบรายละเอียดดังกล่าวแล้ว เรามีความจำเป็นต้องขอข้อมูลเบอร์โทรผู้ปกครองของน้อง เพื่อเราจะดำเนินการแจ้งเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนสำเร็จ ความยินยอมที่น้องให้ไว้ รายละเอียดนโยบายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้ปกครองทราบ
เมื่อผู้ปกครองได้รับข้อความ (SMS) ที่เราแจ้งการลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบความยินยอมที่น้องให้ไว้ และสามารถแก้ไขการให้ความยินยอมที่น้องเลือกไว้แล้วได้ โดยผู้ปกครองต้องกรอกแบบฟอร์ม คำขอถอนความยินยอม และแจ้งให้เราทราบ เพื่อให้เราพิจารณาดำเนินการตามที่ผู้ปกครองร้องขอ โดยเราจะแจ้งผลให้ผู้ปกครองและน้องทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอดังกล่าว
ทั้งนี้ หากในอนาคตน้องไม่ประสงค์จะรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์ น้องสามารถถอนความยินยอมที่น้องเคยให้ไว้โดยเข้าไปที่ การตั้งค่าในแอปพลิเคชั่น หรือหากน้องไม่ต้องการรับอีเมลหรือจดหมายอื่น ๆ จากเราโปรดคลิกลิงก์ “ยกเลิกการสมัคร” ในจดหมายโต้ตอบทางอีเมลที่น้องได้รับ
6.เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของน้องเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของเรา โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
วัตถุประสงค์ที่กำหนด | ฐานทางกฎหมาย | |
---|---|---|
(1) | เพื่อส่งข้อมูลส่วนลด โปรโมชันคอร์สเรียน ข่าวสาร ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด อาทิ การส่งข้อความ ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น กิจกรรมการตลาดผ่านอีเมล | ฐานความยินยอม |
(2) | เพื่อติดต่อกลับทางโทรศัพท์หรือช่องทางที่น้องอนุญาต และแนะนำคอร์สเรียนที่เหมาะสม หรือที่น้องอาจสนใจ เพื่อทำโฆษณาแบบเจาะจงตามพฤติกรรมของน้อง | ฐานความยินยอม |
(3) | เพื่อวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติ เกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนของน้องจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ สำหรับพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ | ฐานความยินยอม |
(4) | เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และใช้ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของน้องก่อนเข้าเรียน ก่อนเข้าสอบ หรือก่อนการใช้บริการ | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา/ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(5) | เพื่อประมวลผลในขั้นตอนการลงทะเบียนการสมัครสมาชิก ลงทะเบียนสอบ สมัครใช้บริการและการจัดทำฐานข้อมูลของผู้เรียนที่ใช้งานระบบ | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา |
(6) | เพื่อตอบคำถามของผู้เรียน และชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ ผ่านระบบการสนทนา การให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่เหมาะสม ตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่อง และปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงเพื่อบ่งชี้ความคืบหน้าของการเรียน และความสนใจในการเลือกเรียน การประเมินผลการเรียน และการออกใบประกาศนียบัตร (certificate) หากน้องเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนด | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา/ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(7) | เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประเภทเดียวกันกับที่น้องมีอยู่กับเรา ซึ่งเป็นประโยชน์กับน้อง | ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(8) | เพื่อการบริหารจัดการคำสั่งซื้อ ส่งมอบ ติดตาม จัดส่ง การเปลี่ยน จัดเตรียมผลิตภัณฑ์และบริการ แจ้งผลคะแนน/รางวัลที่น้องได้รับ รวมถึงการจัดการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการให้บริการของเรา หรือจะทำให้เราไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา/ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(9) | เพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การหักบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของเลขที่บัญชี และหมายเลขบัตรเครดิต หรือเดบิต และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบสำคัญรับเงิน ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายหรือประกาศอื่นใดที่เกี่ยวข้อง | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา/ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย |
(10) | การรับเรื่องร้องเรียน รับข้อเสนอแนะ ติดต่อสื่อสาร การทำแบบสอบถาม การสำรวจความเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ การดำเนินการตามคำสั่ง คำร้องขอ รวมถึงเพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ การให้คำปรึกษา การให้คำชี้แจง การตอบข้อสงสัย | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา/ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(11) | เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งในและต่างประเทศที่ใช้บังคับและที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ | ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย |
(12) | เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของเรา ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวน การไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น | ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(13) | เพื่อการเรียกเก็บเงิน หรือหนี้ที่ค้างชำระ การเข้าทำธุรกรรม การดำเนินการรับชำระเงิน จัดการกับข้อเรียกร้องและข้อพิพาท รวมถึงการดำเนินการแก้ไขข้อพิพาท การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิ์ หรือการโต้แย้งข้อเรียกร้องทางกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา/ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(14) | เพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางธุรกิจอันสมควร เช่น การจัดทำสถิติการใช้งานแบบไม่เฉพาะเจาะจงบุคคล การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุม หรือบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์และวางแผนแนวโน้ม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน | ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(15) | เพื่อแจ้งเตือนการใช้บริการ เมื่อใกล้สิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญา การสร้าง และรักษาบัญชีผู้ใช้ รวมถึงการประมวลผล การตรวจสอบการใช้บริการ และการปิดบัญชีผู้ใช้ | ฐานการปฏิบัติตามสัญญา |
(16) | เพื่อใช้ในการขาย การโอน การควบกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน ซึ่งเราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้น ๆ | ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(17) | เพื่อบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบภายใน การตรวจสอบบัญชี การเงินและการบัญชี การบริหารจัดการภายในองค์กร และการปฏิบัติตามนโยบายในการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือกิจการเดียวกัน ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ (Binding Corporate Rules) | ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย |
(18) | เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การเฝ้าติดตามข้อมูลการใช้เครือข่าย (network activity logs) การระบุเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย (security incidents) การดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันอื่นใดต่อการกระทำที่ประสงค์ร้าย หลอกลวง ฉ้อฉล หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายแก้ไขปัญหา การพัฒนา จัดให้มี ดำเนินการ ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT systems) | ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม |
(19) | เพื่อการป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ในกรณีที่น้องไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เช่น การป้องกันด้านสุขภาพในสถานการณ์โรคระบาด การประมวลผลข้อมูลสุขภาพเพื่อการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อน้องประสบภยันตรายระหว่างอยู่ในความดูแล หรืออยู่ภายในบริเวณของเรา รวมถึงการนำน้องส่งโรงพยาบาลในกรณีที่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเป็น หรือภยันตรายถึงชีวิต | ฐานป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล |
7.เหตุใดเราจึงต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของน้อง
เรามีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่น้องสมัครลงทะเบียนเรียนกับเรา เนื่องจาก เราต้องใช้ข้อมูลเพื่อประกอบการทำสัญญา และต้องส่งข้อมูลให้หน่วยงานของรัฐเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หากน้องไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่เรา อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่ของเราตามกฎหมาย หรืออาจทำให้เราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้อย่างถูกต้อง และ/หรือ อาจทำให้มีข้อขัดข้อง ไม่สมบูรณ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อตกลงเงื่อนไขในสัญญาระหว่างเรากับน้องได้ หรือในบางกรณีเราอาจไม่สามารถอนุญาตให้น้องลงทะเบียนเรียนได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวเราอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการลงทะเบียนเรียน หรือยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับน้องไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (แล้วแต่กรณี)
อย่างไรก็ตาม น้องมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอม โดยเราจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอม มาเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครเรียน ซึ่งน้องสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เรากำหนด หรือที่ได้รับความยินยอมจากน้องเท่านั้น โดยในกรณีที่เราจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของน้องในลักษณะ และ/หรือ วัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับที่กำหนด เราจะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และประกาศให้น้องทราบทางเว็ปไซต์หรือมีหนังสือไปยังน้องทางอีเมลเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว
8.เราแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของน้องหรือไม่
เราจะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมที่น้องให้ไว้ และตามวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น โดยในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของน้องให้กับบุคคลอื่น เราจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยเราจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการที่ปลอดภัยและเป็นความลับ และจะไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่เราได้กำหนดไว้ ซึ่งเราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของน้องต่อบุคคล หรือองค์กร ดังต่อไปนี้
- กลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่มีข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งเราจะแจ้งรายชื่อกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจให้น้องทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ความยินยอมในการแบ่งปันข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น เพื่อการส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ หรือการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่น้อง
- ผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ในการให้บริการต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่ในนามบริษัท หรือร่วมกับบริษัท เพื่อดำเนินวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ และมีความจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น แพลตฟอร์มการทดสอบความรู้ และ/หรือองค์ที่เป็นผู้พิจารณาออกใบอนุญาต หรือใบรับรอง การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบไอทีต่าง ๆ บริการบันทึก เก็บข้อมูล บริการชำระเงิน การตรวจสอบทางบัญชี หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อน้อง ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสารลูกค้า ผู้ให้บริการการสำรวจความพึงพอใจ ผู้ให้บริการการพิมพ์ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบทางการตลาด บริษัทที่จัดพิมพ์เอกสาร ตลอดจนผู้ให้บริการออกใบกำกับภาษีทั้งในรูปแบบกระดาษและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของบริษัท
- หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร เป็นต้น
9.เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของน้องไปต่างประเทศหรือไม่
9.1 เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของน้องไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งน้องเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัท กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของน้องเอง หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของน้องก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของน้องหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
9.2 เราอาจเก็บข้อมูลของน้องบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์และรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล แต่เราจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
9.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของน้องไปยังต่างประเทศ เราจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของน้องจะได้รับการคุ้มครองและน้องสามารถใช้สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของน้องได้ตามกฎหมาย รวมถึงเราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
10.เราทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร
น้องสามารถเชื่อมต่อบัญชีของน้องกับบัญชีหรือแพลตฟอร์ม Learn anywhere สำหรับวัตถุประสงค์ในการเรียนออนไลน์ ซึ่งข้อมูลที่เราแบ่งปันกับบุคคลภายนอกตามที่มีการเชื่อมต่อบัญชีจะนำไปใช้และแบ่งปันตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศฉบับนี้เท่านั้น
11.เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของน้องไว้นานเท่าไหร่
11.1 เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของน้องตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ก. กรณีที่เราได้รับข้อมูลจากการลงทะเบียน การสมัครสมาชิก เราจะเก็บข้อมูลของน้องไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการแก่น้อง และตราบเท่าที่น้องยังคงเป็นสมาชิก และจะเก็บต่อไปอีก 2 (สอง) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสถานะการเป็นสมาชิกหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์
ข. ในกรณีมีการขอใช้สิทธิตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ บริษัทจะเก็บหลักฐานประวัติการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ 1 (หนึ่ง) เดือน นับถัดจากเดือนที่บริษัทพิจารณาคำขอแล้วเสร็จ
ค. กรณีอื่น ๆ เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของน้องไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของน้องอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของน้องจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
11.2 เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว เราจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เราจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น
12.น้องมีสิทธิ์ใดบ้างตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เราเคารพสิทธิส่วนบุคคลของน้อง และเปิดโอกาสให้น้องสามารถใช้สิทธิ์ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังต่อไปนี้
1) สิทธิ์ขอเพิกถอนความยินยอม: หากน้องได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่น้องให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) น้องมีสิทธิ์ที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของน้องอยู่กับเรา โดยการเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่น้องได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิ์นั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างน้องกับเราที่ให้ประโยชน์แก่น้องอยู่ หรืออาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของน้องอาจส่งผลกระทบต่อน้อง จากการใช้บริการต่าง ๆ เช่น น้องจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น หรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของน้อง หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของน้อง จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนใช้สิทธิ์ขอถอนความยินยอม
2) สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: น้องมีสิทธิ์ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของน้องที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา และขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่น้อง รวมถึงขอให้เราแบ่งปันว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของน้องมาได้อย่างไร เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิ์ปฏิเสธคำขอของน้องตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของน้องจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
3) สิทธิ์ในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล: น้องมีสิทธิ์ขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของน้องในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิ์ขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิ์ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
4) สิทธิ์ขอคัดค้าน: น้องมีสิทธิ์ขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของน้องในเวลาใดก็ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของน้องทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่น้องสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
หากน้องยื่นคัดค้าน เราจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของน้องต่อไป เฉพาะที่เราสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของน้อง หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
5) สิทธิ์ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: น้องมีสิทธิ์ขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของน้อง หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของน้องได้ หากน้องเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของน้องถูกประมวลผลโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าเป็นกรณีที่เราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อเราเห็นว่าสามารถปฏิบัติตามที่น้องได้ใช้สิทธิ์ขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิ์ขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
6) สิทธิ์ขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: น้องมีสิทธิ์ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิ์ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของน้อง หรือกรณีอื่นใด ที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของน้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่น้องขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
7) สิทธิ์ขอให้แก้ไขข้อมูล: หากน้องเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของน้องไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง น้องสามารถแจ้งเราเพื่อให้แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของน้องให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ให้เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ทั้งนี้ หากน้องประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพ เราจะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของน้องเพื่อให้ถูกต้อง ตามความจำเป็นของเราที่ชอบด้วยกฎหมาย และในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเราอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยในกรณีเรามีเหตุให้ปฏิเสธคำร้องขอของน้อง เราจะจัดทำบันทึกการปฏิเสธคำขอ พร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหลักฐานด้วย
8) สิทธิ์ร้องเรียน: น้องมีสิทธิ์ร้องเรียนต่อเราผ่านช่องทางเว็ปไซต์ โดยเลือกแบบฟอร์มร้องเรียนการประมวลผลข้อมูล หรือติดต่อเราผ่าน Call center หากน้องเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
13.น้องจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างไร
13.1 ในกรณีที่น้องประสงค์จะจัดการถอนความยินยอมที่น้องให้ไว้ น้องสามารถกดเข้าไปที่ การตั้งค่าในแอปพลิเคชัน หรือน้องสามารถกรอก แบบฟอร์มคำขอถอนความยินยอม ผ่านช่องทางเว็ปไซต์ของเรา หรือในกรณีที่น้องจะใช้สิทธิ์อื่นๆ ตามที่ระบุในข้อ 12 น้องสามารถกรอก แบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางเว็ปไซต์ของเราได้ โดยเราจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของน้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เราสามารถปฏิเสธการใช้สิทธิ์ของน้องได้ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากเราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของน้องได้ เราจะทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้
13.2 เราจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของน้อง เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอเนื่องมาจากเหตุทางเทคนิค
13.3 ในบางสถานการณ์เราอาจขอให้น้องพิสูจน์ตัวตนของน้องก่อนการใช้สิทธิ์เพื่อความปลอดภัยของน้องเอง โดยบางครั้งอาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิ์ของน้องบางประการหรืออาจเกิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเราจะทำการชี้แจงให้น้องทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิ์ของน้องได้ หรือจะแจ้งให้น้องทราบ หากเราจำเป็นต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการตามที่น้องร้องขอ
14.เราดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของน้องให้ปลอดภัยอย่างไร
เรากำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
15.น้องจะติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างไร
เราได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ในกรณีที่น้องเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ไม่เป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ 2562 หรือมีข้อเสนอแนะ ข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิ์ตามประกาศฉบับนี้ น้องสามารถติดต่อสอบถาม หรือร้องเรียนได้ผ่านช่องทาง ดังนี้
บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ : 02-251-9456
ที่อยู่ : บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
444 อาคารเอ็ม บี เค ทาวเวอร์ ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล : DPO@Learn.co.th
ที่อยู่ : 444 อาคารเอ็ม บี เค ทาวเวอร์ ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
16. ประกาศความเป็นส่วนตัวจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือไม่
เราจะทำการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เราจะแจ้งให้น้องทราบด้วยการ update ข้อมูลลงในเว็ปไซต์ของเราโดยเร็วที่สุด ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้น้องอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากเราหรือเว็บไซต์ของเรา
ปัจจุบัน ประกาศความเป็นส่วนตัวถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565