Past Tense คืออะไร?
Past tense คือ เทคนิคทางภาษาอังกฤษที่ประกอบไปด้วยโครงสร้างและหลักการเฉพาะทางในการเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้ว
Past Tense เป็น 4 tenses ในอดีตจากทั้งหมด 12 Tense ที่น้องๆ หลายคนบ่นว่ามีปัญหามากที่สุดเวลาที่เจอในข้อสอบ ซึ่งทีมวิชาการ Premier Prep ก็ไม่รอช้าที่จะช่วยน้องๆ ให้พร้อมพิชิตภาษาอังกฤษสุดหิน
ดังนั้นทีมวิชาการ Premier Prep เลยจะมาแชร์เทคนิคการเล่าเรื่องในอดีตด้วย Past Tense พร้อมทั้งโครงสร้าง Past Tense และ ตัวอย่างประโยค Past Tense ที่น้องๆ สามารถเอาไปใช้ได้เลยเมื่ออ่านจบค่ะ
Past Tense มีอะไรบ้าง?
Past Tense ประกอบไปด้วย 4 Tenses ย่อย นั่นก็คือ
- -Past Simple Tense (Subject) + (V2)
- -Past Continuous Tense (Subject) + (was/were) + ( V.ing)
- -Past Perfect Tense (Subject) + (had) + (V3)
- -Past Perfect Continuous Tense (Subject)+(had)+(been)+ (V.ing)
ซึ่ง Tense ทั้ง 4 ใน Past Tense เรามักจะใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่มีเงื่อนไขต่างกันไป เรามาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
Past Simple Tense
Past simple tense คือ เทคนิคทางภาษาอังกฤษในการเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้วและจบไปแล้วในอดีต หรือกิจกรรมที่เคยเกิดขึ้นเป็นกิจวัตรซ้ำๆ ในอดีต (Past Tense) และมักจะมีคำกำกับเวลาในประโยคเพื่อบอกให้เรารู้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ในอดีต
โดย Past simple tense จะมีโครงสร้างและหลักการใช้ดังต่อไปนี้
โครงสร้าง past simple tense
ประธาน + กริยาช่องที่ 2 หรือ Subject + Verb 2 คือ โครงสร้างประโยค Past Simple ที่ใช้เล่าเหตุการณ์ในอดีต วิธีการจำโครงสร้าง Past Simple ก็ง่ายๆ เลยค่ะ คือให้เราลองเปรียบเทียบ Present simple กับ Future simple ดู เราจะเห็นได้เลยว่า สิ่งที่แตกต่างกันออกไปจริงๆ ในเรื่องของโครงสร้างมีแค่เฉพาะส่วนของ Verb เท่านั้นเอง ง่ายมากๆ เลยใช่ไหมคะ สำหรับหนึ่งในสี่ Tense แรกของ Past Tense
| Present Simple | Past Simple | Future Simple | |
| โครงสร้างประโยค | S + V1 | S + V2 | S + will + V.infinitive |
หลักการใช้ Past Simple Tense
โดยปกติแล้ว เวลาเราใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่องในอดีต เรามักจะ Past simple ค่ะ โดยการใช้ Past simple เรามักจะเติมคำกำกับเวลาในประโยค (Adverb of Time) เพื่อแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เช่น
- Last Month (เดือนที่แล้ว)
- A long time ago (เมื่อนานมาแล้ว)
- On May 4th, 1992 (ณ วันที่ 4 พฤษภาคม1992)
ซึ่ง Past Simple Tense จะใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ คือ กิจวัตรประจำวันที่เคยเกิดขึ้นซ้ำๆ ในอดีต และการเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้วและจบไปแล้ว เรามาดูตัวอย่างประโยค Past Tense ที่ใช้ Past Simple กันเลยดีกว่าค่ะ
ตัวอย่างประโยค Past Simple Tense
มาถึงตัวอย่างแรกประโยคแรกของ Past Tense กันแล้วนะคะ เราลองมาดูประโยค Past simple ที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตกันค่ะ
I watched Netflix last night.
ประโยคนี้เป็นการเล่าว่า “เมื่อคืนฉันดู Netflix นะ” โดยเราจะสังเกตได้ว่า โครงสร้างประโยคเป็นแบบ Past simple เลย นั่นก็คือ I (subject) watched (กริยาช่องที่ 2 ของ watch) และมีคำกำกับเวลา last night เพื่อบอกว่าดู Netflix เมื่อคืนนะ
ทีนี้เรามาดูการใช้ Past simple tense กับอีกเหตุการณ์กันเลยค่ะ นั่นก็คือ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเป็นกิจวัตรซ้ำๆ ในอดีต โดยเหตุการณ์ประเภทนี้มักจะคำกำกับเวลาที่เป็นกิจวัตรเพิ่มเติมเข้ามา ลองไปดูตัวอย่างกันเลยค่ะ
I always played games when I was young.
ประโยคนี้เป็นการเล่าเหตุการณ์ที่ว่า “ตอนฉันยังเด็ก ฉันมักจะเล่นเกมเสมอ” ซึ่งมีโครงสร้างประโยคคล้ายกันเลยค่ะ เพียงแค่ในกรณีนี้มีคำกำกับเวลาที่แสดงถึงกิจวัตรเพิ่มเข้ามา
When I was young แสดงถึงเหตุการณ์ในอดีต + I (subject) played (กริยาช่องที่ 2 ของ played) และมีคำกำกับเวลาที่แสดงถึงความเป็นกิจวัตรนั่นก็คือ always นั่นเองในกรณีนี้
ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เย้! เพียงแค่เข้าใจหลักการใช้กับโครงสร้างได้ละก็ เรื่อง Past Tense ๖๗ก็ไม่ยากอีกต่อไป!
Past Continuous Tense
Past Continuous Tense คือ เทคนิคการเล่าเรื่องในอดีต (Past Tense) เพื่ออธิบายการกระทำหรือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยมักจะใช้กับ 2 เหตุการณ์คือ เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตโดยดำเนินมาสักพักนึง และใช้ในกรณีที่มี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต โดยในกรณีนี้เรามักจะต้องใช้คู่กับ Tense อื่น (ซึ่งทีมวิชาการมักจะเรียกว่า Tense คู่ค่ะ) ซึ่งการใช้ Past Continuous Tense นั้น จะมีการใช้ was were ร่วมกับ V.ing เข้ามาในการเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต โดยโครงสร้างและหลักการของ Past continuous tense มีดังนี้ค่ะ
โครงสร้าง Past Continuous Tense
Subject + was/were + V.ing หรือ ประธาน + was/were + กริยาเติม ing คือ โครงสร้าง Past Continuous Tense ค่ะ ถ้าเราลองเทียบกับ Tense อื่นๆ อย่าง Present Continuous กับ Future Continuous เหมือนอย่างที่เราทำกับ Past Simple ละก็ เราก็จะเห็นได้ว่าโครงสร้างจริงๆ ของ Past Continuous ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ดังนั้นน้องๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะจำโครงสร้างทั้งหมดของ Past Tense ไม่ได้นะคะ เพราะว่าจริงๆ สิ่งที่เปลี่ยนจริงๆ คือ is, am, are เป็น was, were เท่านั้นเอง
| Present Continuous | Past Continuous | Future Continuous | |
| โครงสร้างประโยค | S + is, am, are + V.ing | S + was, were + V.ing | S + will be + V.ing |
หลักการใช้ Past Continuous Tense
หลักการใช้ Past Continuous Tense นั้น จะมีการใช้ was were มาเป็นตัวกำกับเวลาว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในอดีตและมีการใช้ V.ing เพื่อบอกว่าเหตุการณ์นั้นเป็นเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งพอ was/were มารวมกับ V.ing จึงกลายเป็นการเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตนั่นเอง โดยสถานการณ์ในอดีตที่เรามักจะเอา Past Continuous Tense มาใช้หลักๆ จะมีอยู่ 2 เหตุการณ์ ก็คือ 1) กำลังเกิดในอดีตและเกิดขึ้นสักพัก 2) ใช้ในกรณีที่มี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต โดยในกรณีนี้เรามักจะต้องใช้คู่กับ Tense อื่นๆ ค่ะ เราลองไปดูตัวอย่างประโยคของ Past Continuous เพื่อให้เข้าใจ Past Tense มากขึ้นกันเลยดีกว่าค่ะ
ตัวอย่างประโยค Past Continuous Tense
- ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดในอดีตและเกิดขึ้นสักพัก
Lulu was watching Netflix at 9 p.m. last night.
เหตุการณ์นี้ต้องการสื่อว่า ลูลู่กำลังดู Neflix ตอนสามทุ่มเมื่อคืนนี้ และสื่อว่าลูลู่ดู Netflix อยู่สักพักเลยนะ
ซึ่งตรงจุดที่ว่า “อยู่สักพัก” และความที่มีตัวระบุเวลาที่ชัดเจนกว่า Past Simple (9 p.m.) นั้นจึงเป็นจุดที่ทำให้ Past Tense ทั้งสอง (Past Simple กับ Past Continuous) ต่างกันค่ะ
นั่นเป็นเพราะว่า Past Simple นั้นจะแสดงถึงเหตุการณ์ในอดีตที่จบแล้ว แต่ Past Continuous จะแสดงถึงความต่อเนื่องของเหตุการณ์ในอดีต (อยู่สักพัก) นั่นเอง
- ใช้กับเหตุการณ์ที่เทียบกับอีกสถานการณ์
ตัวอย่างประโยคของเหตุการณ์ประเภทนี้ ที่ทีมวิชาการ Premier Prep บอกว่าเป็นการใช้ Tense คู่นั้น มีเหตุผลอยู่นะ ลองมาดูตัวอย่างข้างล่างนี้กันดีกว่าค่ะ
While I was doing homework in my room, my mom came in.
ขณะที่ฉันกำลังทำการบ้านอยู่ในห้องของฉัน เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในอดีตที่ใช้ Past Continuous แต่จังหวะที่คุณแม่เข้ามานั้น เป็นเหตุการณ์แทรกขณะที่ฉันกำลังทำการบ้านอยู่ เราจึงใช้ Past Simple ในการอธิบายเหตุการณ์ของคุณแม่ที่เปิดประตูเข้ามา จะเห็นได้เลยใช่ไหมคะว่า เราต้องใช้ Tense คู่กัน ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ Past Continuous กับ Past Simple ในการเล่าเรื่องราวในอดีตค่ะ
อีกหนึ่ง Tense คู่ที่เรามักจะใช้ในการเล่าเรื่องราวในอดีตด้วย Past Tense ก็คือ Past Continuous และ Past Continuous ค่ะ ตัวอย่างประโยคก็คือ
While I was doing homework in my class, my teacher was talking on the phone.
ประโยคนี้เป็นตัวอย่างที่เราใช้ Tense คู่ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน โดยใช้ Past Continuous ในการเล่าเรื่องของตัวเองที่กำลังทำการบ้านอยู่ และใช้ Past Continuous ในการสื่อว่า ขณะที่คุณครูเองก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ตอนที่เราทำการบ้านอยู่นั่นเอง
Past Perfect Tense
Past Perfect tense เป็นหนึ่งใน Past tense ที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียวค่ะ โดยทีมวิชาการ Premier Prep มักจะอธิบาย Past Perfect tense ด้วยค่ำว่า “อดีตที่เก่ากว่าอดีต” ค่ะ เอ๊ะ? มันหมายถึงยังไงกันนะ เราลองไปดูโครงสร้างและหลักการใช้กันเลยดีกว่าค่ะ
โครงสร้าง Past Perfect Tense
โครงสร้างของ Past Perfect Tense คือ ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 หรือที่เรามักจะใช้กันว่า Subject + had + V.3 นั่นเอง ถ้าเทียบกับ Present Perfect กับ Future Perfect จะเห็นได้ว่า Past Perfect นั้น ใช้คำว่า had ค่ะ ซึ่งถ้าจำตรงนี้ได้ละก็ การใช้งาน Past Tense ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
| Present Perfect | Past Perfect | Future Perfect | |
| โครงสร้างประโยค | S + has/have + V3 | S + had + V3 | S + will have + V3 |
หลักการใช้ Past Perfect Tense และ สิ่งที่แตกต่างจาก Present Perfect
“อดีตที่เก่ากว่าอดีต” คือใจความสำคัญของ Past Perfect Tense เลยค่ะ อาจจะดูเป็น Past Tense ที่ค่อนข้างซับซ้อนนะคะ แต่คำว่า “อดีตที่เก่ากว่าอดีต” นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ Past Perfect แตกต่างจาก Present Perfect เพราะว่า เหตุการณ์ที่ใช้ Past Perfect นั้น เป็นเหตุการณ์ที่จบลงไปแล้ว ก่อนที่เหตุการณ์ในอดีตอีกเหตุการณ์นึงจะเกิดขึ้น
แต่ถ้าเป็น Present Perfect ละก็ เหตุการณ์จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่สิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน จะเห็นได้เลยว่า Past Perfect เป็นหนึ่งใน Past Tense ที่เข้าใจยากจริงๆ ค่ะ อธิบายด้วยหลักการอาจจะยังไม่เห็นภาพ ดังนั้นเราลองไปดูตัวอย่างประโยคที่ใช้โครงสร้างและหลักการของ Past Perfect เพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้นกันเลยดีกว่าค่ะ
ตัวอย่างประโยค Past Perfect Tense
My father had finished his work when I came into his room.
จากตัวอย่างประโยคด้านบน เราจะเห็นได้ว่าสองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นคนละจังหวะกัน จังหวะแรกก็คือคุณพ่อทำงานเสร็จแล้ว เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนและจบลงก่อน ดังนั้นเราจึงใช้ Past Perfect ในการอธิบายเหตุการณ์ของคุณพ่อนั่นเอง
และหลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็เข้าไปในห้องของคุณพ่อซึ่งเป็นเหตุการณ์ในอดีตจังหวะที่สองที่เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงใช้ Past simple ในการอธิบายเหตุการณ์นี้นั่นเอง
Past Perfect นั้นเป็นหนึ่ง ใน Past Tense ที่มีหลักการและสถานการณ์การใช้ที่เฉพาะเจาะจงมากเลยทีเดียว ถ้าเกิดเจอขึ้นมาในข้อสอบละก็ ขอให้จำใจความสำคัญของ Past Perfect ให้ได้ก็ทำข้อสอบได้ไม่ยากแน่นอนค่ะ
Past Perfect Continuous Tense
Past Perfect Continuous คือ การเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต ซึ่งค่อนข้างเหมือน Past perfect ธรรมดาเลยค่ะ แต่มีการเน้นย้ำเวลาของเหตุการณ์แรกว่าเกิดนานแค่ไหนก่อนที่จะเกิดอีกเหตุการณ์นึง โดยเราจะใช้ Past Perfect Continuous กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อนอีกเหตุการณ์นึงในอดีต (Past Simple) เราลองไปดูโครงสร้างของ Past Perfect Continuous กันเลยค่ะ (Tense สุดท้ายของ Past Tense แล้วนะคะ สู้ๆ !!)
โครงสร้าง Past Perfect Continuous Tense
ประธาน + had been + กริยาเติม ing หรือ Subject + had been + V.ing คือ โครงสร้างของประโยคที่ใช้ Past Perfect Continuous ค่ะ ในเรื่องของโครงสร้างประโยคนั้น ก็เหมือนกับสาม Tense ใน Past Tense ทั้งหมดที่เราเห็นมาเลยค่ะ ซึ่งถ้าเราลองมาเทียบโครงสร้างของ Past Perfect Continuous กับ Tense อื่นๆ ในตระกูลเดียวกันก็จะเห็นว่าสิ่งแตกต่างกันหลักๆ ก็คือ Past Perfect Continuous ใช้ had นั่นเอง
| Present Perfect Continuous | Past Perfect Continuous | Future Perfect Continuous | |
| โครงสร้างประโยค | S + has/have + been + V.ing | S + had + been + V.ing | S + will have + been + V.ing |
หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense
Past Perfect Continuous มักจะใช้คู่กับ 2 เหตุการณ์ในอดีต โดยเราจะใช้ Past Perfect Continuous เป็นเหตุการณ์ลำดับแรก และเหตุการณ์ที่เกิดลำดับถัดมาจะใช้ Past Simple เข้ามาอธิบายเหตุการณ์ค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้ Past Perfect Continuous กับ Past Perfect ต่างกันก็คือว่า Past Perfect Continuous จะเน้นย้ำเรื่องความต่อเนื่องของเวลาและให้ความสำคัญกับเหตุการณ์แรกมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาค่ะ เรามาปิดท้ายเรื่อง Past Tense ด้วยการมาดูตัวอย่างประโยคของ Past Perfect Continuous กันเลยดีกว่าค่ะ
ตัวอย่างประโยค Past Perfect Continuous Tense
ตัวอย่างประโยคของ Past Tense สุดท้ายเลยค่ะ มาดูกันเลย
James had been playing games for 8 hours before his mom arrived.
จากตัวอย่างประโยคนี้ เราจะเห็นได้ว่ามีการใช้ Past Perfect Continuous ในการอธิบายเหตุการณ์ของเจมส์ว่า เจมส์เล่นเกมเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ก่อนที่คุณแม่จะมาถึง ซึ่งการใช้ Past Perfect Continuous เข้ามาอธิบายเหตุการณ์แรกก็เพื่อเน้นเรื่องระยะเวลาของเหตุการณ์แรก คือ เจมส์เล่นเกมไปทั้งสิ้น 8 ชั่วโมงค่ะ (นานๆ มากเลย อย่าเล่นเยอะแบบเจมส์นะคะ) และเหตุการณ์ถัดมาก็ใช้ Past Simple เหมือนเดิมค่ะ
ข้อคิดจริงๆ ก็คือว่า เราจะใช้ Past Perfect Continuous เพื่ออธิบายความต่อเนื่องและความสำคัญของเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่จะมีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นตามมาทีหลังนั่นเองค่ะ และตรงนี้ก็เป็นการปิดจบทั้งสี่ Tense ของ Past Tense ค่ะ
เรียนภาษาอังกฤษ กับ Premier Prep
จบกันไปแล้วค่ะกับเทคนิคการเล่าเรื่องด้วยภาษาอังกฤษด้วย Past tense ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วถ้าเราเข้าใจหลักการและโครงสร้างการใช้งานของ Past tense ทั้ง 4 tense ไม่ว่าจะเป็น Past Simple, Past Continuous, Past Perfect และ Past Perfect Continuous ละก็ เราก็สามารถต่อกรกับข้อสอบได้ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม
แต่ว่าภาษาอังกฤษไม่ได้มีแค่เฉพาะเรื่อง Tense เท่านั้น แต่ยังมีเรื่อง Grammar อื่นๆ ที่ถ้าไม่มีความเข้าใจที่แข็งแรงมากพอ ก็อาจจะทำให้เสียโอกาสทำคะแนนสูงๆ ได้ในสนามสอบแข่งขัน
ที่ Premier Prep เรามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่สอน Grammar พื้นฐานทั้งของมัธยมต้นและมัธยมปลายที่สรุปครบทุกประเด็นเกี่ยวกับแกรมม่า (รวมถึง Tense ต่างๆ นอกเหนือจาก Past tense ด้วยนะ) ภายในไม่กี่ชัวโมงเท่านั้น เรียนจบปุ้บ แม่นแกรมม่าปั้บ เริ่มก่อน พร้อมกว่า โอกาสสอบติดก็มากขึ้นนะคะ อย่ารอช้า มาเรียนกับ Premier Prep กันเลยค่ะ
