เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับวิชา TGAT ENG ประเดิมสอบครั้งแรกกับน้อง #Dek66 หลังจากที่เฝ้ารอแนวทางกันมาอย่างยาวนาน ก็เป็นอันฟันธงแล้วว่า ต้องติว Speaking & Reading แน่ๆ แต่!... อย่าชะล้าใจ ก่อนจะเริ่มติว เราต้องมาวิเคราะห์สิ่งที่ Blueprint บอกกันก่อน
พาร์ทไหนยากสุด? พาร์ทไหนทำคะแนนง่ายสุด? ทิ้งแกรมม่าได้เลยหรือเปล่า? มาหาคำตอบกัน!
ส่วนที่ 1 Speaking Skill
- การถาม–ตอบ (Question-Response)
- เติมบทสนทนาแบบยาว (Long conversations)
- เติมบทสนทนาแบบสั้น (Short conversations)
ในส่วน Speaking Skill แนวโจทย์จะให้เราเลือกคำตอบมาต่อบทสนทนา เป็นส่วนที่เชื่อว่าน้องๆ พอทำไหว แต่อย่าได้ใจเชียวนะ! เพราะ #Dek65 ก็พลาดท่าส่วนนี้มาแล้ว
แม้ตัวโจทย์อาจจะง่าย แต่ความยากบางทีไปอยู่ที่ช้อยส์ ฉะนั้นควรฝึกการเจอโจทย์แบบนี้ให้เยอะๆ ฝึกความคุ้นชินกับบริบทการสนทนา ก็จะช่วยได้มากเลยทีเดียว
ส่วนที่ 2 Reading Skill
- เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (TGAT ENG – Text completion)
- อ่านเพื่อจับใจความ (Reading comprehension)
และแล้วก็มาถึงจุดที่เป็นประเด็น! กับส่วนของ “เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (Text completion)” ลักษณะข้อสอบ จะเป็นการหยิบบทความสั้นๆ มา 1 paragraph แล้วตัดแยกส่วน เพื่อให้เราใส่กลับไปให้สมบูรณ์
ซึ่งการออกข้อสอบแบบนี้ มีความท้าทายมาก เพราะรูปแบบเดียวก็จริง แต่วัดทักษะ 3 อย่างด้วยกัน! คือ (ไวยกรณ์ grammar), คำศัพท์ (Vocab) และ ความเข้าใจเนื้อหา (comprehension)
ฉะนั้น จะบอกว่าตัดทิ้ง grammar และ Vocab ไม่ได้นะจาาาา
ส่วนต่อมาคือ “อ่านเพื่อจับใจความ (Reading comprehension)”
ส่วนนี้ค่อนข้างเบาใจ เพราะลักษณะเหมือนทุกๆ สนามสอบ คือ อ่านจับใจความ หา main idea
สรุป!
ดูรวมๆ ไม่น่าเกินความสามารถทุกคน มีความคล้าย TOELC คือ ข้อสอบจะเน้นการใช้ภาษาอังกฤษใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ต้องฝึกหนักๆ จะเป็นเรื่อง Speed test มากกว่า เพราะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด
และที่ต้องระวัง! คนออกสอบในส่วนของ TGAT ENG มาจากการผนึกกำลัง 3 สถาบัน ได้แก่ จุฬาฯ มธ. และ มศว นี้คือสิ่งที่เราไม่อาจเดาใจได้ว่า ข้อสอบจะออกมายากมากน้อยแค่ไหน การเตรียมตัวจึงสำคัญมากๆ
อย่าลืมกด LIKE 👍 Facebook Fanpage ของ ออนดีมานด์ TGAT เชื่อมโยง by OnDemand เพื่อไม่ให้พลาด สาระดีๆ ข่าวสาร และสิทธิพิเศษ นะคร้าบบ